สนามข่าวเสาร์-อาทิตย์ - "ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนลฯ" ในไทย ปฏิเสธแล้วว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเครือข่ายสแกมเมอร์หรือการฟอกเงิน เพียงแค่เคยมีกรรมการคนเดียวกับ "ปรินซ์ฯ ไต้หวัน"
ร้อยตำรวจเอก วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ พร้อมเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เข้าสอบปากคำผู้ถือหุ้น 2 คนไทย ของ บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เช่าสำนักงานชั้น 7 อาคารซิโน-ไทย ทาวเวอร์ หลังถูกตั้งข้อสังเกตว่าเชื่อมโยงกับเครือข่ายบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ของ นายเฉิน จื้อ ที่ถูกทางการสหรัฐฯ กล่าวหาในคดีฉ้อโกงและฟอกเงินในประเทศกัมพูชา
การสอบปากคำ ใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง ก่อนที่ 1 ในผู้ถือหุ้นชาวไทย จะออกมาชี้แจงว่า ทางบริษัทฯ เป็นผู้เชิญเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้าตรวจสอบเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่า ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ บริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป โดยมอบเอกสารรายชื่อผู้ถือหุ้น บัญชีรายรับรายจ่าย บัญชีงบประมาณ และเอกสารเส้นทางการเงินย้อนหลังให้ตรวจสอบ เป็นการอยืนยันว่า รายได้บริษัทฯ ไม่ได้มาจากต่างประเทศ แต่ 90% มาจากการให้คนไทยเช่าอสังหาริมทรัพย์
แต่ก็ยอมรับว่า ช่วงแรกเริ่มทำธุรกิจเคยเจรจากับบริษัท ปรินซ์ โฮลดิ้ง กรุ๊ป ที่เป็นข่าว เพื่อนำสินค้าไปขายกัมพูชา แต่ตกลงผลประโยชน์กันไม่ได้ ทำให้ดีลล่ม และเปลี่ยนเป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567
เดิมที บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มี นายหวัง ยู่ ถัง ชาวไต้หวันเป็นผู้ถือหุ้น ซึ่ง นายหวัง ยู่ ถัง คนนี้ เคยเป็นคนของบริษัท ปรินซ์ เรียล เอสเตท อินเวสเมนท์ ในไต้หวัน โดยนำชื่อ บริษัทฯ ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ของไทย) ไปอยู่ในเครือ บริษัท ปรินซ์ฯ ไต้หวัน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ และชักชวนคนไต้หวันมาซื้อคอนโดฯ ในไทย สุดท้ายการเจรจาล่มอีกเช่นเคย จึงไม่ได้ร่วมธุรกิจ
ส่วนสาเหตุที่ชื่อ บริษัท ปริ้นซ์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ของไทย ยังปรากฏในเว็บไซต์ บริษัท ปรินซ์ฯ ไต้หวัน เนื่องจากเว็บฯ ของบริษัท ไม่สามารถถอดถอนชื่อออกได้ เมื่อ นายหวัง ยู่ ถัง ถูกอายัดบัญชี เพื่อให้ไม่มีอำนาจในการบริหาร บริษัท ปรินซ์ฯ ไต้หวัน จึงถูกเชื่อมโยงไปด้วย