ห้องข่าวภาคเที่ยง - จังหวัดแม่ฮ่องสอน เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินไปทรงงาน และมีอีกหลากหลายโครงการที่พระราชทานให้พัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของพสกนิกร รวมถึงมีความทรงจำที่ชาว จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีต่อพระองค์ท่าน
หนึ่งในนั้นคือ คุณยายท่านหนึ่งที่ได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จอย่างใกล้ชิด และยังได้รับพระราชทานสิ่งของเป็นความประทับใจที่ยังคงเก็บรักษามาอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
แม้จะผ่านมากว่า 60 ปี แต่นางสาวเสาวนีย์ วรรณศิริ อายุ 82 ปี ชาวไทใหญ่ ที่เคยมีโอกาสได้เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงงานที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในปี 2506 ยังคงอยู่ในความทรงจำจวบจนปัจจุบัน
นางสาวเสาวนีย์ ย้อนความหลังว่า ในช่วงนั้น มีอายุเพียง 17 ปี และที่บ้านเปิดเป็นร้านค้า พอรู้ว่า ทั้ง 2 พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินผ่านหน้าบ้าน เพื่อทรงตรวจเยี่ยมโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ จึงมานั่งรอรับเสด็จด้วยใจที่ตื่นเต้น
หลังจากที่ทั้ง 2 พระองค์ ทรงงานเสร็จและเสด็จพระราชดำเนินกลับ เธอได้ตามพ่อไปส่งเสด็จที่สนามบินอีกครั้ง ระหว่างที่ท่านมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้สอบถามว่า เป็นชาวไทใหญ่ แต่ทำไมถึงพูดภาษาไทยชัด และลองให้พูดคำว่า "วันนี้ท้องฟ้าสว่างดีมาก" เป็นภาษาไทใหญ่ ด้วย
ช่วงที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง หันมาโบกพระหัตถ์ นางสาวเสาวนีย์ ได้ทูลขอพระกลด ที่ทรงถืออยู่ ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้เข้าเฝ้าคนอื่น ๆ ไม่คิดว่า เธอจะกล้า
หลังจากทั้ง 2 พระองค์เสด็จพระราชดำเนินกลับไปแล้วก็มีผู้ติดตามที่จำได้แม่นคือท่านขวัญแก้ว วัชโรทัย เดินทางมาหาที่บ้าน และมอบพระกลดที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงใช้เป็นการส่วนพระองค์เป็นประจำให้ สร้างความปลื้มปิติต่อตนเองและครอบครัวเป็นอย่างมาก ตอนแรกยังไม่รู้ว่าจะเก็บอย่างไรก็นำขึ้นไปไว้ที่บนหิ้งพระ ก่อนที่จะนำผ้าแพรสีทองมาห่ออีกครั้งในภายหลัง ตนไปทำงานที่ไหนก็จะนำติดตัวไปด้วยตลอดเวลา จะนำออกมาก็เพียงกรณีพิเศษหรือประเพณีสำคัญ ๆ หากจะนำมาเปิดครั้งใดก็จะรู้สึกขนลุกทุกครั้งไป เพราะเก็บรักษามาถึง 63 ปีแล้ว จากนี้ไปก็จะพยายามดำรงตนเป็นคนดี ทำความดีถวายแด่พระองค์ท่านตลอดไป
