กลดพระราชทาน กับความทรงจำของชาวไทใหญ่

View icon 52
วันที่ 27 ต.ค. 2568 | 07.21 น.
สนามข่าว 7 สี
แชร์
สนามข่าว 7 สี - พสกนิกรจากหลายพื้นที่ ยังคงเก็บความทรงจำ เมื่อครั้งได้ใกล้ชิด สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ขณะเสด็จพระราชดำเนินทรงงาน

แม้จะผ่านมากว่า 60 ปี แต่ นางสาวเสาวนีย์ วรรณศิริ อายุ 82 ปี ชาวไทใหญ่ ที่เคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้า สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินทรงงานที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในปี 2506 ยังคงอยู่ในความทรงจำจวบจนปัจจุบัน

นางสาวเสาวนีย์ ย้อนความหลังว่า ในช่วงนั้น มีอายุเพียง 17 ปี และที่บ้านเปิดเป็นร้านค้า พอรู้ว่าทั้ง 2 พระองค์ จะเสด็จพระราชดำเนินผ่านหน้าบ้าน เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการต่าง ๆ ในพื้นที่ จึงมานั่งรอรับเสด็จด้วยใจที่ตื่นเต้น

หลังจากที่ทั้ง 2 พระองค์ ทรงงานเสร็จและพระราชดำเนินกลับ เธอได้ตามพ่อไปส่งเสด็จที่สนามบินอีกครั้ง ระหว่างที่ท่านมีพระราชปฏิสันถารกับพสกนิกร สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้สอบถามว่า เป็นชาวไทใหญ่ แต่ทำไมถึงพูดภาษาไทยชัด และลองให้พูดคำว่า "วันนี้ท้องฟ้าสว่างดีมาก" เป็นภาษาไทใหญ่ ด้วย

ช่วงที่ สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง หันมาโบกพระหัตถ์ นางสาวเสาวนีย์ ได้ทูลขอพระกลด (ร่ม) ที่ทรงถืออยู่ ท่ามกลางความตกตะลึงของผู้เข้าเฝ้าคนอื่น ๆ ไม่คิดว่าเธอจะกล้า และหลังจากนั้น เธอก็ได้พระกลดราชทานตามที่ตั้งใจ และเก็บรักษาเป็นอย่างดีจนถึงทุกวันนี้

อีก 1 ความทรงจำที่ไม่เคยลืมของชาวบ้านเชียง อำเภอหนองหาน จังหวัดอุดรธานี ที่ครั้งหนึ่งเคยมีโอกาสได้เข้าเฝ้าทั้ง 2 พระองค์ อย่างใกล้ชิด ย้อนไปในปี 2515 หรือเมื่อ 53 ปี ระหว่างการเสด็จพระราชดำเนินเป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรหลุมขุด แหล่งโบราณวัตถุ บริเวณวัดโพธิ์ศรีใน ตำบลบ้านเชียง

นางอังคณา บุญพงษ์ อายุ 78 ปี อดีตข้าราชการครู โรงเรียนบ้านเชียงประชาเชียงเชิด เป็น 1 ในชาวบ้าน ที่ได้มีโอกาสเข้าเฝ้ารับเสด็จอย่างใกล้ชิด แม้พระองค์จะไม่ได้ทรงมีปฏิสันถารกับตัวเอง แต่ก็รู้สึกปลื้มปิติ เพราะทั้ง 2 พระองค์ ให้ความสนพระทัยบ้านไทพวน ของ นายพจน์ มนตรีพิทักษ์ ซึ่งเป็นอาของ นางอังคณา ทรงมีรับสั่งให้ นายพจน์ ดูแลและอนุรักษ์ไว้ เพราะวัสดุที่ใช้ก่อสร้าง เริ่มหาไม่ได้แล้ว ซึ่ง นายพจน์ ทราบซึ้งจนหาที่สุดมิได้ จึงทูลเกล้าถวายบ้านไทพวนหลังนี้ และต่อมา ก็ได้รับการดูแลจากกรมศิลปากร