สน.โคกคราม ขึ้นป้ายหน้าห้องควบคุม “ระวังพิเศษ” ลูกอดีตตำรวจยิงปืนใส่รถชาวบ้าน พบประวัติก่อเหตุโชกโชน เคยอาละวาดโวยวายในห้องขัง ผลตรวจไม่พบสารเสพติด เจ้าตัวอ้างทำลงไปด้วยความเครียด ไม่อยากกลับเข้าคุก
ความคืบหน้าหลังกรณีบุคคลอันตราย วานนี้ (27 ต.ค.68) ชุดสืบสวน พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ มินิ S.W.A.T. ของ สน.โคกคราม บุกเข้าจับกุมนายอาร์ม อายุ 34 ปี ลูกชายอดีตตำรวจ หลังก่อเหตุยิงปืนใส่รถนายนาวิน ผู้เสียหาย ขณะขับอยู่บนถนนนวมินทร์ แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร และจากการตรวจสอบประวัติพบเคยต้องโทษจำคุก 14 ปี คดีปล้นทรัพย์ เพิ่งออกจากเรือนจำ มาเมื่อต้นปี 2568 และไปก่อเหตุอุกฉกรรจ์เกี่ยวกับอาวุธปืนอย่างต่อเนื่องหลายคดี
ล่าสุดทีมข่าว CH7HD ได้ลงพื้นที่ สน.โคกคราม พบว่านายอาร์ม ยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ภายในห้องควบคุมผู้ต้องหา เบื้องต้นไม่มีอาการโวยวาย แต่บริเวณกระดานรายชื่อผู้ต้องหาหน้าห้อง ระบุข้อความ "ระวังพิเศษ" เนื่องมาจากก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 11 ต.ค.68 ตำรวจ สน.โคกคราม เคยจับกุมนายอาร์ม ในคดีชิงทรัพย์มาแล้ว และในวันดังกล่าวนายอาร์ม มีอาการโวยวาย ทำลายทรัพย์สิน จึงต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม ตลอดการสอบปากคำผู้ต้องหาตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา นายอาร์มให้การรับสารภาพ แต่อ้างว่าระหว่างที่ขับรถสวนกับรถผู้เสียหายเกิดการเขม่นหน้ากัน และผู้เสียหายโชว์มีดก่อน ทำให้นายอาร์ม ชักปืนออกมายิงด้วยความโมโห โดยอ้างว่าตั้งใจจะยิงปืนขึ้นฟ้า แต่กระสุนไปโดนรถผู้เสียหาย 1 นัด ทั้งนี้ระหว่างสอบปากคำเจ้าตัวก็ยังมีอาการพูดบ่นๆ แต่ไม่ถึงกับโวยวายเหมือนครั้งที่ถูกจับกุมก่อนหน้านี้
นายอาร์ม บ่นว่าไม่อยากเข้าคุก เพราะมีโจทก์หรือคู่กรณีอยู่ในคุกหลายคน กลัวจะไม่ปลอดภัย นอกจากนี้ก็ยังเครียดเรื่องปัญหาครอบครัว ที่ภรรยาพาลูกหนีไปอยู่ที่อื่น ทำให้นายอาร์มไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ต้องเช่าห้องพักรายวัน หรือไม่ก็ไปขอพักอาศัยบ้านเพื่อน
สำหรับการตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายและสารเสพติด ไม่พบ แต่นายอาร์มกินยารักษาโรคบางชนิดอยู่ ซึ่งตำรวจ สน.โคกคราม เตรียมคุมตัวนายอาร์มไปฝากขังต่อศาลในวันพรุ่งนี้ (28 ต.ค.68) ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น มีและพกพาอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน และทำให้เสียทรัพย์ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมีประวัติก่อเหตุคดีอื่น ๆ อีกหลายคดี ที่ผ่านมาในชั้นพนักงานสอบสวนยื่นคัดค้านการประกันตัวมาตลอด แต่บางคดีได้รับการประกันตัวในชั้นศาล
