ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เมือง "KK Park" เกิดเหตุระเบิดลงต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 เชื่อว่ายังคงเป็นการระเบิดเพื่อทำลายหลักฐานแก๊งสแกมเมอร์ ส่วนคนหลบหนีเข้าเมืองเพิ่มเป็นกว่า 1,500 คนแล้ว
กลุ่มควันขนาดใหญ่ลอยสูงกว่าตึก 5 ชั้น ที่เกิดขึ้นเมื่อเย็นวานนี้ นับเป็นครั้งที่ 4 แล้ว ทหารกองกำลัง BGF ของเมียนมา เข้าไประเบิดอาคารซึ่งเป็นฐานที่ตั้ง แก๊งสแกมเมอร์ ในเมือง "KK Park" จุดระเบิดอยู่ห่างจากฝั่งไทยประมาณ 500 เมตร แรงสั่นสะเทือนมาไม่ถึง แต่เศษชิ้นส่วนเหล็กอาคาร ยังปลิวมาถึงบ้านเรือนประชาชนฝั่งไทยอย่างน้อย 3 หลัง ตกใส่ห้องน้ำ เสาไฟ และหลังคาบ้านได้รับความเสียหาย
ส่วนชาวต่างชาติที่หลบหนีเข้ามาฝั่งไทย เพิ่มขึ้น 292 คน ตอนนี้ยอดรวมกว่า 1,500 คน โดยชาติที่ลักลอบเข้าไทยมากที่สุด คือ สัญชาติอินเดีย 482 คน รองลงมาคือ จีน 193 คน
แน่นอนต้องมีเล็ดลอดเจ้าหน้าที่ไทยไปได้บ้าง อย่างชาวจีน 7 คนนี้ หนีไปได้ถึงอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว แต่ก็ไม่รอดถูกเจ้าหน้าที่ทหารชุดเฉพาะกิจอรัญประเทศ จับกุมตัวได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง บริเวณบ้านเขาน้อย สอบถามทั้งหมด ให้การว่า หลบหนีจากเมียนมาเข้าไทยมาตั้งแต่วันที่ 24 ตุลาคม จะไปทำงานเมืองสีหนุวิลล์ ประเทศกัมพูชา แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน
ซึ่งเรื่องเหยื่อที่ถูกหลอกไปทำงานเป็นแก๊งสแกมเมอร์ มีตัวแทนมูลนิธิกระจกเงา นำข้อมูลบุคคลสูญหาย 119 คน ซึ่งมีทั้งเด็ก สตรี และคนชรา ไปยื่นให้ "คณะกรรมการปราบแก๊งคอลเซนเตอร์" ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ตรวจสอบ
โดยแผนประทุษกรรม จะเริ่มจากการไปเจอโฆษณาสมัครงาน เสนอรายได้ดีในโซเชียลฯ เมื่อหลงกลติดต่อไป จะถูกหลอกไปเปิดบัญชีธนาคาร แล้วนัดหมายพาตัวไปอำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว ก่อนถูกหลอกข้ามไปกัมพูชา ซึ่งส่วนใหญ่คนที่ถูกหลอกไป เป็นคนตกงาน หรือมีปัญหาพัฒนาการทางสมองล่าช้า
ซึ่งล่าสุด พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร. เดินทางไปร่วมประชุม JBC เพื่อประสานข้อมูลให้ทางการกัมพูชา ช่วยดำเนินการเรื่องนี้แล้ว
ขณะที่ในการแถลงจับกุม "ศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์" มีคดีหนึ่งที่น่าสนใจ เป็นการจับกุมตำรวจนายหนึ่ง ตำแหน่ง "รองผู้กำกับการสอบสวน" ที่ไม่ระบุว่าสังกัดหน่วยไหน หลังพบพฤติการณ์ผันตัวไปเป็นคนคุมบัญชีม้า มีบัญชีในการครอบครองจำนวนหนึ่ง มีเงินหมุนเวียนมากกว่า 100 ล้านบาท
ขณะที่ภาพรวมการดำเนินการของศูนย์ฯ 1-26 ตุลาคม มีการจับกุมผู้ต้องหา 73 คน ความเสียหายรวมกว่า 1,400 ล้านบาท ช่วยเหลือเหยื่อได้ทันรวม 7 คดี
