เจ้าหน้าที่ตามรวบผู้ต้องสงสัยได้แล้ว 2 คน เหตุปล้นเครื่องเพชรมูลค่าหลายพันล้านบาท จากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ กลางเมืองหลวงประเทศฝรั่งเศส เร่งล่าตัวอีกคนร้ายที่เหลืออีก 2 คน
จากเหตุการ์บุกปล้นเครื่องเพชรจากพิพิธภัณฑ์ลูฟร์ (Louvre) ที่ตั้งอยู่ในกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีคนร้าย 4 คน สวมหมวกไอ้โม่ง และใช้เครนทุบกระจกชั้นบนก่อนเข้าไปในพิพิธภัณฑ์ขณะที่ยังเปิดให้เข้าชมอยู่ และขโมยเครื่องเพชรและอัญมณีไป 8 ชิ้น มูลค่ารวมประมาณ 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือกว่า 3 พันล้านบาท ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป
วันนี้ (28 ต.ค. 68) หนังสือพิมพ์ Le Parisien ของฝรั่งเศส รายงานว่า ผู้ต้องสงสัยทั้ง 2 คน เป็นชายชาวฝรั่งเศส อายุประมาณ 30 ปี เป็นคนจากย่านแซ็ง-แซ็ง-เดอนีส์ (Seine-Saint-Denis) ทางตอนเหนือของกรุงปารีส ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีปัญหาสังคมและมีอาชญากรรมสูง ผู้ต้องสงสัยทั้งสองคนเป็นที่รู้จักของตำรวจมาก่อน ซึ่ง 1 ในผู้ต้องสงสัยถูกจับกุมขณะกำลังเตรียมขึ้นเครื่องบินหนีออกจากฝรั่งเศสไปยังประเทศแอลจีเรีย ขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่าพบเครื่องเพชรที่ถูกขโมยได้กลับคืนมาแล้วหรือยัง ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งตามตัวคนร้ายที่เหลือ แลพพยายามกู้คืนสิ่งของล้ำค่าทั้งหมดกลับคืนมาอย่างเร็วที่สุด
โดยสิ่งของล้ำค่าที่ถูกขโมยไปประกอบด้วย มงกุฎและต่างหูของ สมเด็จพระราชินีมารี-อเมลี และ สมเด็จพระราชินีออร์แตนซ์ แห่งฝรั่งเศส ในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 รวมถึงมงกุฎของ จักรพรรดินีเออเฌนี พระมเหสีของนโปเลียนที่ 3 ซึ่งถูกพบในสภาพเสียหายบริเวณนอกพิพิธภัณฑ์ คาดว่าคนร้ายอาจทำหล่นระหว่างหลบหนี
ทาง อัยการ ลอร์ เบ็กกูโอ (Laure Beccuau) แสดงความไม่พอใจโดยกล่าวว่า การเปิดเผยข้อมูลก่อนเวลาอันควร อาจกระทบต่อความคืบหน้าของการสืบสวน ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กว่า 100 นาย กำลังเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุและทรัพย์สินที่สูญหาย
