รวบคาบ้าน หนุ่มรับเหมาชีวิตพัง ติดพนันออนไลน์ หันรับจ้างเปิด "บัญชีม้า" 5 บัญชีรวด แลกเงินหมื่น

รวบคาบ้าน หนุ่มรับเหมาชีวิตพัง ติดพนันออนไลน์ หันรับจ้างเปิด "บัญชีม้า" 5 บัญชีรวด แลกเงินหมื่น

View icon 227
วันที่ 29 ต.ค. 2568 | 09.29 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (29 ต.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรม ทางเศรษฐกิจ ร่วมกันจับกุม นายวีระชัย อายุ 28 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 2 หมายจับ ดังนี้

1.หมายจับศาลจังหวัดลำพูน ที่ จ.189/2566 ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ซึ่งต้องหาว่า กระทำความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์และนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่า ทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่บุคคลใด บุคคลหนึ่ง

2.หมายจับศาลจังหวัดสกลนคร ที่ จ.118/2567 ลง 21 พ.ค.67 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันโดยทุจริตหรือโดยการหลอกลวง นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือน หรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนหรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหาย แก่ประชาชน และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน”

โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณหน้าบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

พฤติการณ์ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย บก.ปอศ. ดำเนินการตามนโยบายรัฐบาล ลุยปราบภัยออนไลน์เชิงรุก ตัดวงจรคอลเซ็นเตอร์ตามนโยบายของคณะกรรมการป้องกันและปราบปราม อาชญากรรมทางเทคโนโลยี และ พ.ร.ก. มาตรการป้องกันและปราบปรามการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่กำหนดให้การปราบปรามภัยออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ 

ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วย ผบ.ตร./ หัวหน้าศูนย์ต่อต้านการฉ้อโกงออนไลน์ ได้สั่งการให้ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิด เกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ระดมกวาดล้างผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีอาชญากรรม ทางเทคโนโลยีทุกมิติ เพื่อตัดวงจรการทำงานของสแกมเมอร์อย่างเป็นรูปธรรม

สืบเนื่องจากเมื่อประมาณปี 2563 นายวีระชัย ผู้ต้องหา ซึ่งเดิมประกอบอาชีพรับเหมาก่อสร้าง แต่ได้ประสบปัญหาสภาพคล่องทางการเงินอย่างหนัก จากการติดหนี้พนันบาคาร่าออนไลน์ ต่อมา ผู้ต้องหาได้พบกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "กลุ่มงานเสริมออนไลน์-เงินด่วนทันใจ" ซึ่งมีการโพสต์รับสมัครคนเปิดบัญชี ธนาคาร โดยเสนอให้รายได้ดีเป็นการตอบแทน ผู้ต้องหาจึงได้ติดต่อทักแชตไปสอบถาม และได้รับข้อเสนอเรทราคาค่าเปิดบัญชี ตั้งแต่ 300 - 2,000 บาท ขึ้นอยู่กับความยากง่ายของแต่ละธนาคาร และยังเสนอ "แพ็คเกจพรีเมียม" หากยอมเปิดบัญชีพร้อมมอบสมุดบัญชี, ซิมการ์ดโทรศัพท์ และบัตร ATM ให้ จะได้เรทราคาสูงถึง 10,000 บาทขึ้นไป

ในขณะนั้นนายวีระชัย ซึ่งกำลังร้อนเงิน ได้ตัดสินใจใช้ "ทางลัด" ด้วยการสมัครเปิดบัญชีธนาคาร ออนไลน์ (E-KYC) จำนวน 5 บัญชี โดยใช้โทรศัพท์มือถือของตนเอง และใช้ใบหน้าของตนเองสแกนเพื่อยืนยัน ตัวตนแลกกับเงินค่าจ้างประมาณ 10,000 บาท หลังจากนั้นไม่นาน บัญชีธนาคารทั้ง 5 บัญชีของนายวีระชัยฯ ได้ถูกนำไปใช้เป็น "บัญชีม้า" ในการรับโอนเงินจากเหยื่อที่ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกลวงในรูปแบบต่าง ๆ จนเกิดความเสียหายเป็นวงกว้าง และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจออกหมายจับในเวลาต่อมา

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.3 บก.ปอศ. ได้สืบสวนติดตามจนทราบว่า นายวีระชัย หลบหนีมาพักอาศัย ในย่านพระโขนง จึงได้เฝ้าสังเกตการณ์จนพบตัว และเข้าแสดงหมายจับ นายวีระชัย ยอมรับว่าเป็นบุคคล เดียวกันกับในหมายจับจริงและยังไม่เคยถูกจับกุมในคดีดังกล่าวมาก่อน เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวและนำส่ง พนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง