ดีเดย์เที่ยงคืน 1 พ.ย. ไทย-กัมพูชา ถอนอาวุธชายแดน

View icon 81
วันที่ 29 ต.ค. 2568 | 16.20 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เริ่มแล้ว ไทย-กัมพูชา เห็นชอบวันดีเดย์ถอนอาวุธหนักชายแดน เฟสแรก เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เที่ยงคืน เริ่มถอนจรวดหลายลำกล้อง BM-21

ช่วงเช้าวันนี้ เวลา 09.00 น. มีการประชุมฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบกำหนดวันดีเดย์ถอนอาวุธชายแดนร่วมกัน

เฟสแรก อาวุธประเภทจรวดหลายลำกล้อง เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลา 00.00 น. เฟส 2 อาวุธประเภทปืนใหญ่ทั้งหมด ทั้งลากจูงและอัตราจร ขนาด 155 มม.ลงมา เริ่มในวันที่ 22 พฤศจิกายนนี้ เวลา 00.00 น. และ เฟส 3 อาวุธประเภท ยานเกราะ รถถัง จะเริ่มในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ เวลา 00.00 น.

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ลงนาม บันทึกการประชุม ร่วมกัน ในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 14.00 น.บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม-โอร์เสม็ด ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เพื่อทบทวนการปฏิบัติในเฟส 1 และหารือการปรับกำลังในเฟส 2 และ 3 เพื่อให้ส่วนที่เกี่ยวข้องมีเวลา ในการวางแผนเข้าตรวจสอบและวางแผนการเคลื่อนย้าย

ขณะที่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงถึงการพิจารณาปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นายว่า เป็นไปตามหลักกติกาสากล และกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งจะพิจารณาจากลักษณะท่าทีของความเป็นปฏิปักษ์ ที่เคยมีต่อกัน ต้องลดระดับลงชัดเจน ผ่านผลการดำเนินการตามข้อตกลงที่ทั้งสองประเทศเห็นชอบร่วมกันไว้แล้ว 4 ข้อหลัก คือ การถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดน ซึ่งทั้งสองฝ่ายเริ่มเคลื่อนย้ายรถถังออกจากพื้นที่ชายแดนของทั้งสองประเทศ ตั้งแต่เมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา

ส่วนการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ฝ่ายไทยเสนอพื้นที่ดำเนินการเบื้องต้น 13 พื้นที่ ขณะนี้เริ่มดำเนินการแล้ว 4 พื้นที่ และจะขยายผลไปยังพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป

ส่วนการปราบปรามเครือข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ และ ขบวนการสแกมเมอร์ ได้ประสานส่งข้อมูลเป้าหมายให้กับทางการกัมพูชา พร้อมจัดตั้งทีมเฉพาะกิจร่วม เพื่อติดตามและแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง

และการบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะช่วงหลักเขตที่ 42-47 ซึ่งเมื่อพื้นที่มีความปลอดภัย จะเข้าสู่กระบวนการสำรวจเพื่อจัดทำหลักเขตแดนชั่วคราว และตรวจสอบสิทธิ์การถือครอง

หลังจากนี้ ฝ่ายไทยจะติดตามความก้าวหน้าของการดำเนินการตามแผนและขั้นตอน ตามที่ตกลงและเห็นชอบร่วมกันไว้ หากสิ่งที่ตกลงกันไว้ ไม่บังเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมที่เพียงพอ กองทัพบกอาจจะพิจารณาเสริมใช้มาตรการอื่นภายใต้กรอบกฎหมาย และกติกาสากลมาสนับสนุนเพิ่มเติม