ห้องข่าวภาคเที่ยง - หลังจากนายกฯไทย และนายกฯกัมพูชา ลงนามร่วมกัน ตกลงจะเดินหน้าทำตามข้อตกลง 4 ข้อ โดยจะดีเดย์เริ่มถอนอาวุธหนักในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ขณะที่การเก็บกู้ระเบิด ก็ยังเดินหน้าต่อเนื่อง กองทัพเรือ พบทุ่นระเบิดอีก 4 ลูก ที่ชายแดนจังหวัดตราด
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ได้เก็บกู้ทุ่นระเบิดบริเวณชายแดน บ้านหนองรี ตำบลชำราก อำเภอเมือง จังหวัดตราด เพื่อสนองนโยบายของรัฐบาล ภายหลังนายกรัฐมนตรี ลงนามในแถลงการณ์ร่วม และเห็นชอบร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดตกค้างในพื้นที่ชายแดน
โดยกองร้อยทหารช่างตรวจพบและเก็บกู้ทุ่นระเบิดรวมถึงวัตถุระเบิดตกค้างหลายรายการ ได้แก่ ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 1 ทุ่น สภาพใหม่, ทุ่นระเบิดแบบ TYPE-72 จำนวน 1 ทุ่น, ลูกระเบิด ค.61 จำนวน 2 ลูก, ค.82 และ ลูก RPG อย่างละ 1 ลูก
ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก กองทัพบกทันกระแส โพสต์ระบุว่า ตามหาคนหาย ทีมเก็บกู้ทุ่นระเบิดกัมพูชา หลังจากลงนาม GBC ยังไม่พบทีมเก็บกู้ทุ่นระเบิดจากกัมพูชา และไม่มีเจ้าหน้าที่ชาวกัมพูชา มาร่วมทำแผน
พื้นที่กองทัพภาคทื่ 1 บ้านหนองจาน เหลือ 2 แห่งที่เข้าเก็บกู้ไม่ได้ คือ 1.พื้นที่อ้างสิทธิ์ตาม MOU 43 ประมาณ 4.8 หมื่นตารางเมตร และ 2.พื้นที่ 135 ครอบครัวที่กัมพูชายึดครอง 64 ไร่
ส่วนการถอนอาวุธหนัก ในการประชุมฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานชายแดนส่วนภูมิภาค กองทัพภาคที่ 2 ของไทย และภูมิภาคทหารที่ 4 ของกัมพูชา (RBC) เมื่อวานนี้ (29 ต.ค.) เห็นชอบกำหนดวันถอนอาวุธชายแดนร่วมกัน
เฟสแรก อาวุธประเภทจรวดหลายลำกล้อง เริ่มวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ เวลา 00.00 น.
ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้ลงนามบันทึกการประชุมร่วมกันในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ เวลา 14.00 น.บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องจอม - โอร์เสม็ด
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย บอกว่า ในการพบปะพูดคุยกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ช่วงหลังงานเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคเป็นกรณีพิเศษ ได้ขอบคุณนายโดนัลด์ ทรัมป์ อีกครั้งที่ได้เป็นผู้ประสานงาน การลงนามสันติภาพ ระหว่างไทยและกัมพูชา
รวมถึงได้พูดคุยว่า ขณะนี้กัมพูชาได้ปฏิบัติตามข้อตกลง และฝ่ายไทยเตรียมการที่กำหนดไว้ในข้อตกลง โดยมีเป้าหมายที่จะทำให้สำเร็จทั้ง 2 ฝ่ายโดยเร็วที่สุด
