สาวสุดช้ำ ร้องสายไหมต้องรอด ถูกผัวตัวดีหลอกคบ 3 ปี สูญเงินกว่า 30 ล้านบาท

สาวสุดช้ำ ร้องสายไหมต้องรอด ถูกผัวตัวดีหลอกคบ 3 ปี สูญเงินกว่า 30 ล้านบาท

View icon 408
วันที่ 30 ต.ค. 2568 | 14.11 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
สาวสุดช้ำ ร้องสายไหมต้องรอด ถูกแฟนหนุ่มรู้จักกันทางเฟซบุ๊กหลอกคบ 3 ปี ลงทุนให้สร้างตัวสูญเงินกว่า 30 บ้านบาท ตัวเองหมดตัว แต่ฝ่ายชายกลับร่ำรวยผิดปกติ

วันนี้ (30 ต.ค. 68) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา ที่ศูนย์ประสานงานเพจสายไหมต้องรอด ถ.วัดเกาะ เขตสายไหม กทม. มี น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 41 ปี ร้องทุกข์ของความช่วยเหลือเพื่อความเป็นธรรม หลังจากถูกแฟนหนุ่มหลอกคบ 3 ปี ลงทุนทำธุรกิจให้ สูญเงินกว่า 30 ล้านบาท

น.ส.เอ เปิดเผยว่า ตนคบกับแฟนมาได้ 3 ปี โดยรู้จักกันผ่านทางเฟซบุ๊ก ฝ่ายชายประกอบอาชีพขายไก่ต้มน้ำปลา ช่วงแรกคบกันได้ประมาณ 1 ปี ฝ่ายชายมักคุยถึงเรื่องอนาคตอยากสร้างครอบครัว ตนก็มีความตั้งใจจะสร้างตัวไปด้วยกัน จึงให้ทรัพย์สินต่าง ๆ แก่ฝ่ายชาย ทั้งเครื่องประดับ เสื้อผ้า และของแบรนด์เนม ต่อมามีการร่วมลงทุนเพื่อให้ฝ่ายชายมีอาชีพและหน้าที่การงานที่มั่นคง ได้มอบเงินให้ไปลงทุนโรงงานกากใยมะพร้าว แต่ประสบปัญหาสินค้าไม่ได้ตามสเปกจนขาดทุน ต้องขายทรัพย์สิน ไม่ว่าจะเป็นรถแบ็กโฮ โรงงาน รวมถึงเครื่องจักรต่าง ๆ

หลังจากนั้นได้นำเงินไปลงทุนเปิดฟาร์มเลี้ยงหมู แต่ก็ขาดทุนอีกเช่นกัน ต่อมาฝ่ายชายสนใจอยากเรียนเทรดหุ้น และให้ตนร่วมลงทุนด้วย แต่สุดท้ายก็ขาดทุนทั้งหมด กระทั่งช่วงหลังฝ่ายชายเริ่มตีตัวออกห่าง ทั้งที่ขณะนั้นฝ่ายชายกลับมีฐานะดี ขับรถหรูหลายคัน ทั้งรถซูเปอร์คาร์ลัมบอร์กีนี ปอร์เช และมินิคูเปอร์ อีกทั้งยังเตรียมจะซื้อบ้านมูลค่า 20 ล้านบาท แต่ตนกลับหมดตัวจากการช่วยเหลือและลงทุนให้ฝ่ายชาย

นอกจากนี้ยังทราบว่าฝ่ายชายมีผู้หญิงอื่นกว่า 10 คน จึงได้ทวงถามเงินที่เคยช่วยเหลือไป ฝ่ายชายจึงยื่นข้อเสนอจะทยอยคืนให้เดือนละ 200,000 บาท ซึ่งตลอด 7 เดือนที่ผ่านมาได้ส่งมาแล้วรวม 1,700,000 บาท และยังให้เงินก้อนเพิ่มอีก 1,000,000 บาท แต่ยังมีเงินส่วนที่ค้างจากการลงทุนอีก 1,350,000 บาท ที่ยังไม่ได้รับคืน จึงมาร้องขอความช่วยเหลือ เพื่อให้ฝ่ายชายนำเงินจำนวนดังกล่าวมาคืน โดยยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเอาชนะแต่อย่างใด แต่อยากได้เงินคืนเพื่อนำไปเริ่มต้นลงทุนสร้างชีวิตใหม่อีกครั้ง ยอมรับว่าตอนแรกที่เจอผู้ชายคนนี้ ตนเกิดความพึงพอใจและมีความรักให้เต็มที่ ไม่คิดเลยว่าจะต้องตกอยู่ในสภาพแบบนี้

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ระบุว่า เรื่องของทรัพย์สินนั้นต้องเป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย โดยให้ทนายความเป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ ทั้งนี้มีข้อสงสัยเกี่ยวกับทรัพย์สินของฝ่ายชายที่มีความร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งตนอยากให้ตำรวจจากหน่วยงาน สอท. เข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมกันนี้ ยังอยากให้ฝ่ายหญิงนำข้อมูลทั้งหมดไปให้เจ้าหน้าที่ เพื่อชี้แจงที่มาที่ไปของความร่ำรวยของฝ่ายชายภายในเวลาไม่กี่ปี ว่ามีที่มาจากไหน ส่วนจะมีการขยายผลว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย หรือธุรกิจสีเทาหรือไม่นั้น ก็เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่จะต้องดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง