“นฤมล” ถก บอร์ด ก.ค.ศ. ปรับหลักเกณฑ์ประเมินวิทยฐานะ เปิดทางใช้ผลงานเชิงประจักษ์เป็นทางเลือกเพิ่ม เห็นชอบแนวทางพัฒนาระบบย้ายครู ย้ำ ยืดหยุ่น เพิ่มโอกาสมากขึ้น
วันนี้ (31 ต.ค.68) นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์ และวิธีการประเมินตำแหน่งวิทยฐานะ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อส่งเสริมให้มีช่องทางเสนอผลงานที่หลากหลายมากขึ้น
นางนฤมล ระบุว่า สำนักงาน ก.ค.ศ. กำหนดคำนิยามและลักษณะของการนำเสนอผลงานนวัตกรรมเชิงประจักษ์ให้มีความชัดเจน เพิ่มความหลากหลาย ให้ครูฯ สามารถเสนอผลงานทางวิชาการเพื่อขอมี/เลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และเลื่อนเป็นวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ
โดยสามารถเลือกได้ว่า จะส่งเป็นรายงานการสร้างหรือพัฒนานวัตกรรมเชิงประจักษ์ หรือรายงานการวิจัย เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงทักษะ การคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การสร้างหรือพัฒนานวัตกรรม และวิจัย เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งถือเป็นความรู้ความสามารถทางวิชาการที่จำเป็นจะต้องมีในวิทยฐานะเชี่ยวชาญ และเชี่ยวชาญพิเศษ
"อาจารย์ได้รับฟังเสียงของครูว่า การเสนอผลงานวิจัยเป็นภาระหนัก ในขณะที่ครูมีผลงานดี ๆ จากการปฏิบัติหน้าที่จริงมีอยู่มากมาย หลักเกณฑ์ฯ ที่แก้ไขนี้ จะช่วยให้ครูสามารถนำผลงานเชิงประจักษ์มาเสนอได้ สะท้อนความเป็นจริงของการทำงาน และที่ประชุมได้มอบหมายให้สำนักงาน ก.ค.ศ. พิจารณาเพิ่มเติมในส่วนของการนำผลงานเชิงประจักษ์ในรูปแบบรางวัลมาเสนอ ก.ค.ศ. พิจารณาอีกครั้งด้วย เพื่อเพิ่มทางเลือกที่หลากหลายและครอบคลุมที่สุด ในส่วนของการประเมินผลงานทางวิชาการ สำหรับวิทยฐานะเชี่ยวชาญและวิทยฐานะเชี่ยวชาญพิเศษ ผ่านระบบ DPA ยังกำหนดให้มีการประชุมคณะกรรมการประเมินผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ เพื่อแลกเปลี่ยนการพิจารณาร่วมกันอีกครั้งหนึ่ง โดยการดำเนินการประชุมอยู่ในชั้นความลับทุกขั้นตอนด้วย" ศ.ดร.นฤมล กล่าว
นอกจากนี้ ในส่วนของการเพิ่มสัดส่วนกรรมการประเมินวิทยฐานะที่เป็นข้าราชการครู ซึ่งที่ประชุมเห็นชอบบัญชีรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการประเมินตำแหน่งผู้บริหารการศึกษา (ว12/2564) รวม 486 คน โดยเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หรืออดีตผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการที่มีประสบการณ์ตรงทั้งนี้ เพื่อให้การประเมินวิทยฐานะมีความยืดหยุ่นและสอดคล้องกับบริบทการจัดการศึกษาและการบริหารการศึกษาของแต่ละส่วนราชการ
สำหรับการประเมินผ่านระบบดิจิทัล (DPA) ส่วนราชการต่างๆ ได้เสนอรายชื่อผู้ทรงคุณวุฒิรวม 6,251 คน ขณะนี้มีผู้กรอกข้อมูลและมีคุณสมบัติครบถ้วนแล้ว 1,180 คน แบ่งเป็น สพป. 587 คน สพม. 484 คน สอศ. 79 คน สกร. 17 คน และ สป.ศธ. 13 คน ซึ่ง อ.ก.ค.ศ. วิสามัญเกี่ยวกับวิทยฐานะฯ ได้เห็นชอบบัญชีรายชื่อดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว