วันนี้ (31 ต.ค.68) กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว รายงานการระบาดของเชื้อไวรัสโปลิโอ ชนิดวัคซีนกลายพันธุ์ ชนิดที่ 1 (cVDPV1) โดยระบุว่า เมื่อวันที่ 8 ต.ค.68 ประเทศ สปป.ลาว ได้แจ้งต่อ องค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัสโปลิโอชนิดวัคซีนกลายพันธุ์ ชนิดที่ 1 (cVDPV1) ภายหลังตรวจพบเชื้อ VDPV1 ในเด็กสุขภาพดี 2 คน ที่อาศัยอยู่ในเขตซนบุลี แขวงสะหวันนะเขต ทางต้อนใต้ของประเทศ
ก่อนหน้านี้วันที่ 26 ส.ค.68 ได้มีรายงานผู้ป่วย อาการกล้ามเนื้ออัมพาต อ่อนปวกเปียกแบบเฉียบพลัน” (AFP) 1 คน ในแขวงสะหวันนะเขต ซึ่งตรวจพบเชื้อ VDPV1 จึงได้สอบสวนโรคเก็บตัวอย่างอุจจาระจากเด็กสุขภาพดี ใน 3 หมู่บ้าน ภายในเขตซนบุลี 28 ตัวอย่าง ส่งไปยังห้องปฏิบัติการเฉพาะทางด้านโปลิโอโลก ที่สถาบันโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIID) ประเทศญี่ปุ่น และได้รับการยืนยันพบเชื้อ VDPV1 ในอุจจาระของเด็ก 2 คน อายุ 1 ขวบ และ 3 ขวบ 5 เดือน โดยเด็กทั้ง 2 คน อยู่ห่างจากบ้านของผู้ป่วย AFP ประมาณ 2 กม. และไม่มีอาการผิดปกติ
ผลการตรวจของห้องปฏิบัติการพบว่า เชื้อไวรัสมีความเชื่อมโยงทางพันธุกรรมอย่างใกล้ชิดกับเชื้อ VDPV1 ที่พบในผู้ป่วย AFP รายก่อนหน้า การตรวจพบดังกล่าวจึงได้รับการจัดประเภทเป็นการระบาดของเชื้อ cVDPV1 ตามแนวทางของโครงการกำจัดโปลิโอทั่วโลก
สำหรับการประเมินความเสี่ยงขององค์การอนามัยโลก (WHO) โรคโปลิโอ เป็นโรคที่ติดต่อได้ง่าย เกิดจากเชื่อไวรัสโปลิโอ (PV) สามารถนำไปสู่อาการอัมพาตที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ประมาณ 1 คน จากผู้ป่วย 200 คน ในบรรดาผู้ป่วยที่มีอาการอัมพาต ร้อยละ 5-10 เสียชีวิตจากภาวะระบบทางเดินหายใจล้มเหลว เนื่องจากกล้ามเนื้อทางเดินหายใจได้รับผลกระทบ โรคนี้ส่วนใหญ่มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ขวบ อย่างไรก็ตาม โรคนี้สามารถเกิดขึ้นกับทุกวัยหากไม่ได้รับวัคซีนป้องกัน และยังไม่มีวิธีการรักษาที่ชัดเจน
การตรวจพบเชื่อไวรัสโปลิโอสายพันธุ์ธรรมชาติ (WPV) หรือเชื้อ VDPV รวมถึงตัวอย่างจากสิ่งแวดล้อม และตัวอย่างจากเด็กที่มีสุขภาพดี ถือเป็นเหตุการณ์สาธารณสุขที่ร้ายแรง โดยเชื้อ VDPV คือ เชื่อในวัคซีน OPV ที่ได้รับการกลายพันธุ์ มีความเสี่ยงที่จะแพร่กระจายในพื้นพื้นที่ที่ไม่มีความครอบคลุมการได้รับวัคซีน
