กรมการค้าภายใน ลุยตรวจ “ร้านธงฟ้า–คนละครึ่งพลัส” ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับเป็นแสน

กรมการค้าภายใน ลุยตรวจ “ร้านธงฟ้า–คนละครึ่งพลัส” ห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับเป็นแสน

View icon 138
วันที่ 31 ต.ค. 2568 | 14.47 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คนละครึ่งพลัส ดันยอดขายร้านค้าพุ่ง 80% “กรมการค้าภายใน” เตือนร้านค้าห้ามฉวยโอกาสขึ้นราคา ฝ่าฝืนมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับสูงสุด 140,000 บาท

คนละครึ่งพลัส ล่าสุด (31 ต.ค.68) นายวิทยากร มณีเนตร อธิบดีกรมการค้าภายใน (DIT) ลงพื้นที่ติดตามร้านค้าธงฟ้าประชารัฐในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ของรัฐบาล เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ว่าร้านค้าที่อยู่ในโครงการธงฟ้าประชารัฐ ทั้งร้านค้าและร้านอาหาร มีระบบรองรับและมีราคาที่เป็นธรรม

โดยวันนี้ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมร้านค้าแห่งหนึ่งในชุมชนย่านถนนสามัคคี อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ซึ่งเป็นร้านธงฟ้าประชารัฐจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคจำเป็นในชีวิตประจำวัน พบว่า ร้านค้ามียอดขายเพิ่มขึ้นกว่าปกติ 80% และได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนในพื้นที่ที่มาซื้อสินค้าโดยใช้สิทธิในโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนว่าช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้จริง

นายวิทยากร กล่าวเพิ่มว่า “จากการติดตามสถานการณ์ร้านค้าในโครงการ พบว่า ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่กรมการค้าภายในดูแล ทั่วประเทศกว่า 150,000 ร้านค้า เข้าโครงการคนละครึ่งพลัส จำนวน 148,509 ร้านค้า หรือมากกว่า 90% ของทั้งหมด ส่วนร้านอาหารธงฟ้า มีมากกว่า 5,000 แห่งทั่วประเทศ และในขณะนี้มีร้านที่เข้าร่วมแล้วกว่า 1,500 แห่ง ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด และจะทยอยเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ 

ส่วนของเรื่องร้องเรียน กรมฯ ได้รับรายงานการร้องเรียนผ่านสายด่วน 1569 รวมแล้ว 5 เรื่อง เกี่ยวกับร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าราคาสูงขึ้น หรือ ราคาแตกต่างระหว่าง “เงินสด” และ “คนละครึ่ง” โดย DIT ได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงตามข้อมูลเบาะแสที่ได้รับแจ้ง”

ทั้งนี้ อธิบดีกรมการค้าภายใน ย้ำว่า การจำหน่ายสินค้าทั้งแบบชำระเงินสดและใช้สิทธิ์คนละครึ่ง ต้องมีราคาเดียวกัน หากพบการกระทำผิดเข้าข่าย “ฉวยโอกาสจำหน่ายสินค้าเกินราคาควร” จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นอกจากนี้ ร้านค้าที่ไม่ติดป้ายแสดงราคาสินค้าให้ชัดเจนจะมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท  โดยผู้แจ้งเบาะแสสามารถแจ้งข้อมูลมาพร้อมหลักฐาน โดยขอให้ระบุสถานที่ตั้งของร้านค้า และพฤติการณ์การจำหน่ายสินค้า ที่เข้าข่ายความผิดตามกฏหมาย เพื่อกรมจะได้ส่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้ในทันที