จับขบวนการส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทาง ล้วงคองูเห่า ส่งลวง รองผกก.

บุกทลายโกดังส่งพัสดุเถื่อน จับกุมยกบริษัทโลจิสติกส์ ส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทาง ล้วงคองูเห่า กะส่งลวง “รองผู้กำกับ”

วันนี้ ( 31 ต.ค.68 ) พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.สอท., พล.ต.ต.ชัชปัณฑกานต์ คล้ายคลึง รอง ผบช.สอท., พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผบก.สอท.1, พล.ต.ต.ศรายุทธ จุณณวัตต์ ผบก.สอท.2 ,พล.ต.ต.คมกฤช สุขไทย ผบก.สอท.3 และพล.ต.ต.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ ผบก.สอท.4 พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงข่าว รวบยกบริษัท โลจิสติกส์ส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทาง หลังล้วงคองูเห่า กะส่งลวง รองผู้กำกับ ตร.ไซเบอร์

สืบเนื่องจาก พ.ต.อ.ปกรกิตติ์ ธนวรินทร์กุล ผกก.3 บก.สอท.2 พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนในสังกัด ร่วมกับ พ.ต.อ.อดิชาต อมรประดิษฐ ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สอท.3 และชุดสืบสวนในสังกัด ได้ร่วมกันสืบสวนติดตามกรณี มีผู้โพสต์เตือนภัยผ่านทางโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับกลุ่มมิจฉาชีพที่ส่งพัสดุไปยังผู้รับโดยที่ผู้รับไม่ได้สั่ง เพื่อหลอกเก็บเงินปลายทาง โดยมีผู้ตกเป็นเหยื่อจากมิจฉาชีพกลุ่มดังกล่าวแล้วหลายราย

โดยระหว่างการสืบสวน มิจฉาชีพยังได้ส่งพัสดุไปยังที่อยู่ของ พ.ต.ท.เอนก ยอดหมวก รอง ผกก.3 บก.สอท.2 เพื่อหวังหลอกเก็บเงินปลายทางด้วย ตำรวจจึงได้ซ้อนแผน ร่วมกันสืบสวน ติดตามเส้นทางการเงินย้อนกลับไป จนพบหลักฐานที่เชื่อมโยงไปถึง นายศิวัจน์ กรรมการผู้จัดการบริษัทโลจิสติกส์ แห่งหนึ่ง จึงรวบรวมหลักฐานเพื่อขอศาลออกหมายค้นบริษัทดังกล่าว ที่ถนนประเสริฐมนูกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. พบนายศิวัจน์ อายุ 32 ปี กรรมการผู้จัดการบริษัทฯ พร้อมพนักงานอีก 3 คน ที่กำลังนั่งทำงาน ตำรวจจึงได้ร่วมกันซักถาม จนนายศิวัจน์ ยอมรับว่า ได้ร่วมกันส่งพัสดุหลอกเก็บเงินปลายทางจริง

ในขณะเดียวกันตำรวจอีกชุด ได้เข้าตรวจค้นโกดังแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น ซึ่งถูกใช้เป็นสถานที่บรรจุสินค้าไร้คุณภาพส่งให้เหยื่อ ยึดของกลางที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ทั้ง คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ สมุดบัญชีธนาคาร บัตรอ ATM ซิมการ์ดโทรศัพท์มือถือจำนวนมาก กล่อง/ถุง บรรจุพัสดุที่ติดฉลากชื่อผู้รับพัสดุเตรียมส่ง เกือบ 500 ชิ้น กล่องกระดาษเปล่าเตรียมไว้สำหรับบรรจุพัสดุ เกือบ 3 พันกล่อง และอุปกรณ์การแพ็กพัสดุพร้อมเครื่องพิมพ์สติกเกอร์ ชื่อ-ที่อยู่ ของเหยื่อครบชุด

นายศิวัจน์ เผยว่า ทำมาประมาณ 1 ปี โดยเปิดบริษัทรับ-ส่งพัสดุ พร้อมทั้งเปิดเพจขายสินค้าทำให้มีรายชื่อลูกค้าที่ได้จากการยิงแอดโฆษณา จากนั้นเอารายชื่อลูกค้าที่เคยสั่งสินค้ามาเป็นเหยื่อในการส่งพัสดุ ที่เป็นพวกเสื้อผ้ามือสอง ที่ได้เหมาซื้อในราคาถูกมา จากนั้นได้จ้างคนให้แพ็กสินค้าไร้คุณภาพใส่กล่องพัสดุที่โกดังของตนเองในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพื่อส่งให้เหยื่อตามที่อยู่ที่ตนเองมีข้อมูล โดยใช้ระบบเก็บเงินปลายทาง ในราคาประมาณ 400 บาท ซึ่งผู้รับสินค้าไม่ได้สั่งจริงแต่อย่างใด

โดยพบว่ามีคนหลงเชื่อจ่ายเงินประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของที่ส่งไปทั้งหมด จึงได้วางแผนส่งสินค้าเก็บเงินปลายทางประมาณ 12,500 ชิ้นต่อเดือน โดยสั่งการให้พนักงานในบริษัท เป็นผู้ทำระบบลูกค้า แล้วทยอยส่ง User ละ 100 ชิ้น ซึ่งตนเองคอยจัดหาบัญชีม้า มาเพื่อรับเงินค่าพัสดุเก็บเงินปลายทางจากบริษัทขนส่ง ทำให้มีรายได้ประมาณ 5 แสนบาทต่อเดือน

เบื้องต้นตำรวจ พบว่ามีผู้ร่วมขบวนการรายอื่นอีก ขณะนี้ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างเร่ง ขยายผลไปยังผู้ร่วมกระทำผิดรายอื่น ๆ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี พร้อมทั้งสืบสวนทรัพย์สินเพื่อตรวจยึดกลับมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป