ปปง. ยึดทรัพย์เพิ่ม 350 ล้านบาท เครือข่ายสแกมเมอร์ พัวพัน “ลี ยงพัด” รวมยึดแล้ว 600 กว่าล้านบาท เตรียมคืนทรัพย์ให้ผู้เสียหาย 559 ราย
วันนี้ (31 ต.ค.68) นายวิทยา นีติธรรม ผู้ช่วยเลขาธิการ ปปง. และโฆษกประจำสำนักงาน ปปง. เปิดเผยว่า จากการสืบสวนขยายผลและบูรณาการทำงานร่วมกันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตามนโยบายของรัฐบาลในการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับขบวนการสแกมเมอร์ที่มีลักษณะเป็นองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งผู้กระทำความผิดมีพฤติการณ์ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน (แก๊ง Call Center) นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. ในฐานะกรรมการ และอนุกรรมการในคณะกรรมการดังกล่าว ได้ใช้อำนาจตามมาตรา 48 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 สั่งยึดและอายัดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด (เพิ่มเติม) ในรายคดีกลุ่มบุคคลที่ใช้โทรศัพท์หลอกลวงประชาชน รายนายทวีศักดิ์ กับพวก ประเภทห้องชุด ที่ดิน และเงินในบัญชีเงินฝากธนาคาร จำนวน 11 รายการ รวมมูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท (คำสั่ง ย.270/2568)
กรณีดังกล่าวเป็นผลสืบเนื่องมาจากการสืบสวนขยายผลตามนโยบายของรัฐบาล และนายกรัฐมนตรี โดยพบข้อมูลการหลอกลวงผู้เสียหายมีความเชื่อมโยงกันหลายคดี มีข้อมูลเส้นทางการเงินเชื่อมโยงกับบุคคลสัญชาติจีนที่ถือหนังสือเดินทางกัมพูชา และพบเงินในบัญชีเงินฝากจำนวนมาก รวมถึงมีธุรกรรมทางการเงินเชื่อมโยงกับนายพัด สุภาภา หรือ ลี ยงพัด กับพวก และครอบครัว ซึ่งเป็นบุคคลที่ทางการไทยได้ถอนสัญชาติไปแล้ว
ทั้งนี้ รายคดีดังกล่าวได้มีคำสั่งยึดและอายัดทรัพย์สินมาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ดำเนินการแล้วประมาณ 300 ล้านบาท ต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2560 ซึ่งศาลแพ่งได้มีคำสั่งให้นำทรัพย์สินทั้งหมดไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย จำนวน 559 ราย ปัจจุบัน สำนักงาน ปปง. อยู่ระหว่างดำเนินการคืนทรัพย์สินให้กับผู้เสียหาย และอยู่ระหว่างพิจารณาเพื่อกล่าวโทษนายทวีศักดิ์ กับพวก ในความผิดอาญาฐานฟอกเงิน พร้อมทั้งดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องในการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย เพื่อนำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดตามที่ได้มีคำสั่งยึดและอายัดข้างต้น ไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายต่อไป