วันนี้ (1 พ.ย. 68) “พี่เบิร์ด" ทีมงานศูนย์ IMF ภาคตะวันออก เปิดเผยว่า ญาติของ น.ส. ทัศนีย์ อายุ 38 ปี แจ้งว่าน้องมีอาการตกเลือด แท้งลูกในท้อง น้องเข้าไปกัมพูชา ทำงานที่กาสิโนโดยถูกกฎหมาย ซึ่งเดินทางโดยเครื่องบิน ตั้งแต่วันที่ (23 ก.ย. 68) ที่ผ่านมา
โดยเมื่อวาน (31 ต.ค. 68) มีอาการตกเลือดรุนแรง จึงขอให้ศูนย์ฯ ประสานความช่วยเหลือขอกลับไปรักษาในประเทศไทย
ตนจึงประสาน พ.อ. ชัยณรงค์ กาสี ผู้บัญชาการกองกำลังเฉพาะกิจอรัญประเทศ ขอส่งตัวน้องกลับเข้ามาในประเทศประเทศไทย เพื่อรับการรักษาที่โรงพยาบาลอรัญประเทศ
เนื่องจากงานที่เธอทำในกัมพูชา ไม่ได้อยู่ในกรอบของ MOU หรือการคุ้มครองสวัสดิภาพแรงงานของกลุ่มแรงงาน ญาติและตัวเธอจึงเป็นห่วง เรื่องความสะดวกในการรักษา
ด้านผู้เป็นแม่เล่าทั้งน้ำตาบอกว่าดีใจมากที่ได้ลูกสาวกลับมารักษาในประเทศไทย ต่อไปจะไม่ให้กลับไปทำงานในเขมรแล้ว แต่ที่ต้องไปเพราะว่าเมื่อก่อนได้เงินดีและอยู่ไทยก็ไม่มีอาชีพ แต่พอไปแล้วเวลาเราเจ็บป่วยเค้าไม่สามารถดูแลชีวิตเราได้ก็ไม่ให้ลูกสาวเราไปแล้ว
ด้านสามีของ น.ศ. ทัศนีย์ กล่าวว่ารู้สึกเสียใจที่สูญเสียลูกน้อยในท้อง ก่อน หน้าที่ภรรยาจะเดินทางไปทำงานก็เคยตรวจแล้วถึงสองสามครั้งก็ไม่พบว่าตั้งครรภ์ แต่พอเขาไป ทำงานได้สักพักก็ตรวจพบว่าท้องจนกระทั่งเมื่อวาน ภรรยามีอาการตกเลือดหนักทำให้สูญเสียลูกในท้องไป
ตนพยายามที่จะนำภรรยากลับมา รักษาในประเทศไทย โดยเมื่อวานนี้ภรรยาและตนได้มายืนอยู่หน้าด่านบ้านคลองลึก มองหน้ากันผ่านรั้ว ก็ทำให้ตนรู้สึก ร้อนรนใจหาทางที่จะช่วยภรรยาออกมาจากเขมรให้ได้ จึงได้ส่งเรื่องไปถึงพี่เบิร์ด IMF และสามารถรับภรรยากลับมารักษาในประเทศไทยได้ในวันนี้ ขอบคุณสุดหัวใจ
