ทภ.1 ชื่นชม พลทหารพีรพล มีความกตัญญูต่อพ่อ ช่วยเหลือปรับย้ายให้ประจำการหน่วยทหารใกล้ๆ เพื่อให้สะดวกไปเยี่ยมดูแลพ่อที่ป่วยโรคไต ควบคู่กับการทำหน้าที่ทหารรับใช้ชาติ
(2 พ.ย. 68) กรณีที่มีชายไทยได้รับคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2568 ซึ่งอาศัยอยู่กับบิดาเพียงลำพัง และมีโรคประจำตัวต้องเข้ารับการฟอกไต มีภูมิลำเนาอยู่ในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ได้ร้องขอความช่วนเหลือจากมูลนิธิสายไหมต้องรอดนั้น ทางกองทัพภาคที่ 1 ได้รับทราบข้อมูลและตรวจสอบเบื้องต้น พบว่า ชื่อ พลทหาร พีรพล แซ่แต้ ภูมิลำเนาทหาร ต.คลองสวน อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ อยู่กับบิดาเพียงลำพัง ซึ่งป่วยเป็นโรคไต และต้องเข้ารับการรักษาโดยการฟอกไตอย่างต่อเนื่อง โดยพลฯ พีรพล ได้เข้าสู่กระบวนการคัดเลือกเป็นทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 ประจำปี 2568 ซึ่งต้องเข้าสู่กระบวนการรับรายงานตัวของทหารใหม่ ก่อนเข้าประจำการ ณ มณฑลทหารบกที่ 15 จ. เพชรบุรี ในวันที่ 1 พ.ย.68 ตามระเบียบของการเข้ารับการรายงานตัวของทหารกองประจำการ ผลัดที่ 2 พร้อมกันทั่วประเทศ
โดย พล.ท. วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้รับทราบข้อมูลและได้สั่งการ ให้ดำเนินการปรับย้าย พลฯ พีรพล มาประจำการในหน่วยทหารใกล้บ้าน คือ กองพันทหารสื่อสารที่ 1 ซึ่งมีที่ตั้ง บริเวณ แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กทม. ซึ่งมีระยะทางห่างจากบ้าน พลฯ พีรพล ประมาณ 30 กม. เพื่อช่วยอำนวยความสะดวก ในการเดินทางกลับไปเยี่ยมดูแลบุพการี ในห้วงเวลาพักหลังปฎิบัติภารกิจได้ นอกจากนี้ แม่ทัพภาคที่ 1 ได้สั่งการให้ สัสดีอำเภอพระสมุทรเจดีย์ ประสานกับส่วนราชการในพื้นที่ เพื่อร่วมกันดูแล บิดาของพลฯธีรพล แบบสหวิชาชีพต่อไป
โดยในวันนี้ (2 พ.ย.68) ทางคณะสัสดี อ.พระสมุทรเจดีย์ ได้ช่วยเหลืออำนวยความสะดวก พาบิดาของพลฯ พีรพล เข้ารับการรักษาฟอกไต ตามแพทย์นัด และประสาน อส.ที่รับผิดชอบในพื้นที่ ร่วมกันดูแล เพื่อลดความกังวล ให้กับบุตร ซึ่งไปทำหน้าที่ในการเป็นทหารกองประจำการ ทั้งนี้ กองพันทหารสื่อสารที่ 1 จะดำเนินการช่วยเหลือ ทั้งการช่วยเหลืออำนวยความสะดวกกับครอบครัวทหาร ในห้วงประจำการในภาพรวม ตามความเหมาะสมต่อไป
ทั้งนี้ กองทัพภาคที่ 1 ได้ดำเนินการดูแลกำลังพลในทุกระดับ ตามแนวทางของกองทัพบก โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ความสำคัญกับการดูแลทหารกองประจำการ ซึ่งถือเป็นน้องเล็กของกองทัพ ทั้งในเรื่องสิทธิประโยชน์ สวัสดิการ ตลอดจนการช่วยเหลือครอบครัวที่ประสบปัญหาต่างๆ ตามความเหมาะสม เพื่อให้ กำลังพล มีขวัญและกำลังใจ มีความพร้อมทั้งทางร่างกายและจิตใจ ในการปฏิบัติหน้าที่ด้านความมั่นคงได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป