เกิดเหตุเศร้าสลดในงานบุญกฐิน ไวยาวัจกรวัย 64 ปี ขยับรถเก๋งหลบขบวนแห่ เข้าเกียร์ผิด ถอยพุ่งชนเด็กหญิง 5 ขวบ เสียชีวิต เด็กชาย 6 ขวบ บาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา เกิดเรื่องเศร้าสลดในงานบุญกฐิน โดยมีกล้องวงจรปิด ภายในวัดแห่งหนึ่ง พื้นที่ อ.พล จ.ขอนแก่น บันทึกภาพเหตุการณ์ไว้ได้ ซึ่งเป็นภาพขณะชาวบ้านกำลังรวมขบวนแห่กองกฐิน เพื่อนำมาฉลองที่วัด กำลังทยอยเดินเข้ามาในวัด มีกลุ่มเด็ก ๆ ในหมู่บ้านที่มารอเก็บเหรียญโปรยทาน พากันเดินนำหน้าเข้ามาก่อน และมาอยู่บริเวณหลังรถเก๋งสีขาว ซึ่งจอดอยู่ก่อนหน้าแล้ว
จากนั้นคนขับรถเก๋งซึ่งอยู่ในรถได้สตาร์ตรถ เพื่อขยับรถออกจากเส้นทางขบวนแห่ แต่หลังสตาร์ตรถพบความผิดปกติ คือมีเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม คล้ายคันเร่งค้าง จากนั้นคนขับอาจตกใจ จึงเข้าเกียร์รถ คาดว่าเป็นเกียร์ออโต ทำให้รถพุ่งถอยหลังชนเข้ากับกลุ่มเด็กที่อยู่หลังรถอย่างแรง ก่อนจะลากร่างเด็กหญิงคนหนึ่งติดใต้ท้องรถไปด้วย พร้อมทั้งเสียงกรีดร้องของชาวบ้านที่อยู่ในเหตุการณ์ ก่อนที่รถคันดังกล่าวจะพุ่งถอยหลังไปชนกับต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ด้านหลัง
ต่อมาชาวบ้านต่างพากันเข้ามาดูเหตการณ์ โดยมีชายคนหนึ่งเข้ามาอุ้มร่างเด็กหญิงขึ้นขับออกจากแนววิ่งของรถ โดยอุ้มเด็กหญิงมาวางลง ก่อนที่ชาวบ้านจะช่วยกันเข็นรถคันเกิดเหตุกลับไปจอดที่เดิม เป็นเหตุให้เด็กหญิงอายุ 5 ขวบ เสียชีวิต 1 คน และเด็กชายอายุ 6 ขวบ ได้รับบาดเจ็บ ต้องนำส่งโรงพยาบาลศูนย์ขอนแก่น
สอบถาม น.ส.สุธีธิดา อายุ 20 ปี น้าของเด็กหญิงที่เสียชีวิต บอกว่า เมื่อวันที่ 1 พ.ย. 68 ที่ผ่านมา ที่หมู่บ้านมีการจัดงานกฐิน โดยช่วงเวลาประมาณ 14.00 – 15.00 น. มีขบวนแห่กองกฐินรอบหมู่บ้าน โดยช่วงเวลาประมาณ 14:00 น. กว่า ๆ ขบวนแห่ได้ผ่านหน้าบ้าน หลานสาวก็ยังได้ออกมาเก็บเหรียญโปรยทาน ที่ทางเจ้าภาพโปรยแจกตามถนน เมื่อขบวนผ่านบ้านไป หลานสาวได้บอกคุณยายว่าจะไม่เดินตามขบวนไป โดยจะรออยู่ที่บ้าน คุณยายจึงไปร่วมแห่ขบวนกฐินไปที่วัด พอเกิดเหตุตอนแรกยังไม่ทราบว่าเด็กที่โดนรถถอยชนเป็นหลานตนเอง เพราะมั่นใจว่าหลานตนเองอยู่บ้าน แต่พอเห็นก็ตกใจอย่างสุดขีด จึงรีบเข้าไปช่วยอุ้มตัวหลานต่อจากพลเมืองดีที่เข้ามาอุ้มก่อน จากนั้นขอความช่วยเหลือจากชาวบ้านรีบเรียกรถพยาบาลมารับตัวหลานสาวไปโรงพยาบาล แต่สุดท้ายหลานสาวเสียชีวิต ซึ่งครอบครัวเสียใจมาก
ด้าน พ.ต.อ.พีระฉัตร สาขา ผกก. สภ.พล กล่าวว่า หลังเกิดเหตุคนขับรถได้เข้ามาแสดงตัวแล้ว เป็นชายอายุ 64 ปี และเป็นไวยาวัจกรวัด เบื้องต้นบอกว่าเมื่อได้ยินเสียงขบวนแห่ เห็นว่ารถตนเองจอดไว้ขวางทางขบวน จึงจะมาย้ายรถขยับออกให้ แต่อยู่ดี ๆ รถก็เร่งขึ้น จนเป็นเหตุดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบ รวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วนทุกด้าน ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
