ทหารกัมพูชา โพสต์คลิปถอนอาวุธหนักชายแดน

View icon 31
วันที่ 3 พ.ย. 2568 | 16.21 น.
ข่าวเย็นประเด็นร้อน
แชร์
ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา เป็นวันทั้งไทย-กัมพูชาเริ่มถอนอาวุธหนัก จรวดหลายลำกล้อง แต่สิ่งที่ชาวบ้านกังวล คือ กองทัพไทยถอนอาวุธกลับหน่วยที่ตั้งที่ จังหวัดลพบุรี อยู่ไกลจากชายแดนไปมาก ผิดกับฝั่ง กัมพูชา ที่ถอนกำลังออกไปตั้งใหม่ในพื้นที่ไม่ห่างจากแนวชายแดน

นี่เป็นคลิปขณะที่ทหารกัมพูชาเคลื่อนย้ายปืนใหญ่ออกจากแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ตามข้อตกลงถอนอาวุธหนักที่เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งคลิปนี้ เพจเฟซบุุ๊ก Army Military Force นำมาเผยแพร่

นอกจากนี้ ยังมีคลิปทหารกัมพูชา โพสต์คลิปถ่ายคู่กับเครื่องยิงจรวดบีเอ็ม-21 ซึ่งจัดอยู่ในอาวุธประเภทแรกที่ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะถอนออกจากพื้นที่

ขณะที่เพจเฟซบุ๊ก Thai Burma railway ทางรถไฟสายมรณะ ได้โพสต์ภาพการถอนอาวุธของกัมพูชา เป็นภาพขบวนรถจรวดหลายลํากล้องวิ่งข้ามสะพานข้ามแยก เคลื่อนไปตามถนน จนกลับถึงพนมเปญ ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากชายแดนอยู่ห่างประมาณ 17 กิโลเมตร

หลายคนในโซเชียล บอกว่า ยังไว้ใจกัมพูชาไม่ได้ บางคนมองว่า อาจจะแค่ขับรถวนรอบไปมา แล้วไปจอดไว้ที่เดิม เพื่อบอกว่า ได้ถอนอาวุธหนักเรียบร้อยแล้ว

ขณะที่กองทัพไทยได้เคลื่อนย้ายอาวุธหนักกลับหน่วยที่ตั้งเช่นกัน โดยถอนปืนใหญ่กลับหน่วยที่ตั้งในจังหวัดลพบุรี แต่หลายคนก็เป็นห่วง เพราะย้ายไปอยู่ห่างไกลจากชายแดนมากเกินไป 

จน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ชี้แจงต่อข้อกังวลของประชาชนบางส่วนว่า กองทัพบกจะสามารถ เคลื่อนย้ายอาวุธกลับเข้าพื้นที่ได้ทัน หากเกิดปัญหาทางกัมพูชาไม่ทำตามสัญญาเรื่องข้อตกลงการถอนอาวุธ

โดยแนวทางการถอนอาวุธนั้น ถอนเฉพาะอาวุธหนัก 3 กลุ่ม ซึ่งเป็นอาวุธที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนที่ไม่ใช่เป้าหมายทางทหาร

แม้ว่าอาวุธบางส่วนถูกปรับออกจากพื้นที่ แต่ยังคงมีกองกำลังป้องกันชายแดนประจำอยู่ มีความคุ้มครองด้วยอาวุธสนับสนุนระยะไกล เพื่อปกป้องประชาชน กรณีมีเหตุฉุกเฉิน รวมทั้งยังมีองค์ประกอบสนับสนุนอื่นที่สามารถนำมาชดเชยได้ จึงขอให้ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพบกในการทำหน้าที่ปกป้อง รักษาอธิปไตย ให้ได้อย่างดีที่สุด

โฆษกกองทัพบก ยืนยันว่า กำลังทหารตามแนวชายแดนยังอยู่เหมือนเดิม เพียงแค่ถอนอาวุธ และระบบยิงบางส่วนเท่านั้น อาวุธยิงสนับสนุนในระยะใกล้ที่ใช้ปกป้องอธิปไตยของแต่ละหน่วยยังมีอยู่

เรื่องนี้ได้แจ้งขาวบ้าน และประสานอย่างใกล้ชิด ซึ่งชาวบ้านทราบดี ไม่ได้ตื่นตระหนก และมีความเชื่อมั่นเพราะเจ้าหน้าที่ไม่ได้ไปไหน

ขณะที่วันนี้ ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมโฆษกเหล่าทัพ ร่วมแถลงความคืบหน้าจากผลการประชุม JBC และ GBC ยืนยันว่า รัฐบาลมุ่งมั่นตั้งใจ จะนำความสงบสุขกลับมาคืนสู่คนไทยทุกคน โดยยึดหลักที่เราจะไม่เสียดินแดน ไม่เสียอธิปไตย แม้แต่ตารางเซนติเมตรเดียว

ส่วนการเปิดด่านจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่จะพิจารณา จนกว่ากัมพูชาต้องทำตามเงื่อนไข 4 ข้อก่อน ยืนยันว่า รัฐบาลไทยไม่มีทางที่จะย่อหย่อนต่อกัมพูชาอย่างแน่นอน

ขอบคุณภาพจาก : Army Military Force  

ข่าวที่เกี่ยวข้อง