ตชด.ยึดไอซ์เกรดเอเกือบ 500 กก. เครือข่าย "แชมป์กุดข้าวปุ้น" มูลค่าประมาณ 147 ล้านบาท ผู้ต้องหาร่ำไห้ไม่ได้กลัวติดคุก แต่กลัวเมียมีผัวใหม่
วันที่ 3 พฤศจิกายน 2568 เวลาประมาณ 19.30 น. หน้ากองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 236 (ตชด.236) เขตเทศบาลเมืองนครพนม พล.ต.ต.วุฒิพงษ์ เย็นจิตต์ ผู้บังคับการตำรวจตระเวนชายแดนภาค 2 (ผบก.ตชด.ภาค 2) พร้อมหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ แถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมของกลางไอซ์ จำนวน 10 กระสอบ จำนวน 490 ถุง/กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 147 ล้านบาท และรถกระบะสีดำ ในข้อหาร่วมกันนำเข้ายาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาไอซ์) โดยการกระทำเพื่อการค้าและก่อให้เกิดการแพร่กระจายในชุมชน
สืบเนื่องจากเป็นการขยายผลจาก ตชด.235 อ.ธาตุพนม จ.นครพนม โดยตรวจยึดยาบ้าจำนวน 1.4 ล้านเม็ด และยาไอซ์ 300 กิโลกรัม พร้อมผู้ต้องหา 2 ราย เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา และเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 68 ตชด.ภาค 2 จับกุมผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมยาไอซ์ 216 ถุง/กิโลกรัม โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 เคสให้การว่าได้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่บ้านกุดข้าวปุ้น หมู่ 3 ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม ซึ่งมีนายแชมป์เป็นเครือข่าย ชุดปฏิบัติการจึงเฝ้า ติดตามตลอดเวลา เนื่องจากนายแชมป์ตัวการใหญ่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ ทุกอย่างสั่งการทางโทรศัพท์ โดยใช้ซิมของประเทศเพื่อนบ้าน
ล่าสุด วันที่ 2 พ.ย.68 ทางการข่าวแจ้งว่านายแชมป์เริ่มเคลื่อนไหว คาดจะมีการลำเลียงยาเสพติดข้ามแม่น้ำโขง ส่งไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศไทย จึงประสานหน่วยงานในพื้นที่ร่วมกันวางแผนเพื่อทำการจับกุม โดยวางกำลังตามจุดต่างๆ กระทั่งเวลาประมาณตีสองเศษ วันที่ 3 พ.ย.68 พบรถกระบะ ต้องสงสัยขับออกมาจากหมู่บ้านกุดข้าวปุ้น ท้ายกระบะมีห่อพลาสติกสี่เหลี่ยมสีดำคาดเป็นยาเสพติด ชุดปฏิบัติการจึงขับติดตามไปอย่างกระชั้นชิด ทำให้รถกระบะต้องสงสัยเสียหลักพุ่งไปในทุ่งนาริมทางบ้านหนองบัว หมู่ 1 ต.นาราชควาย อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นรอยต่อกับ ต.รามราช อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม คนขับและคนนั่งข้างพยายามจะวิ่งหลบหนีแต่ถูกควบคุมตัวได้ จึงนำตัวไปสอบสวนที่กองร้อย ตชด.236
จากการสอบสวน นายเมฆ อายุ 29 ปี คนขับรถเล่าว่า ได้รับการชักชวนจากเพื่อนซึ่งต่อมาถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้แล้ว โดยให้ทำหน้าที่ขับรถลำเลียงยาเสพติด ทำมาแล้วรวม 3 ครั้ง แต่ไม่เคยรู้จักหรือเห็นหน้านายทุนผู้ว่าจ้าง โดยผู้ว่าจ้างสั่งการทางโทรศัพท์ ให้ตนขับรถไปที่ ทางแยกเข้า ต.ขามเฒ่า อ.เมืองนครพนม โดยมีคนขี่รถจักรยานยนต์มารออยู่ก่อนแล้ว จากนั้นก็ขับรถ จยย.นำเข้าไปในบ้านกุดข้าวปุ้น แต่จำไม่ได้ว่าเป็นบ้านหลังไหน มีคนช่วยกันแบกกระสอบขึ้นรถจนเต็ม หนึ่งในนั้นคือ นายบิ๊ก อายุ 22 ปี ผู้ต้องหาอีกคน ไม่รู้จักกันมาก่อน เสร็จแล้วก็ให้ตนขับรถออกไปพร้อมกับนายบิ๊ก จุดหมายอยู่ที่ จ.สกลนคร ระหว่างนั้นก็ถูกจับกุม ปกติจะได้ค่าจ้างเป็นเงินสด 1 หมื่นบาท พร้อมยาบ้าจำนวน 2 พันเม็ด ได้เงินก็ใช้เที่ยวเตร่ไม่กี่วันก็หมด ส่วนยาบ้าเก็บไว้เสพเองวันละ 10-20 เม็ด/วัน
ด้าน นายบิ๊ก ให้การว่า เพิ่งรับงานเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกพาเมียไปด้วย แต่พอเมียรู้ว่ามาขนยาเสพติดจึงไม่เอาด้วย ตนจึงทิ้งงานกลางคันเพื่อกลับไปง้อเมีย ครั้งนี้โกหกเมียว่าจะไปหาเพื่อน กระทั่งถูกจับกุมได้ ซึ่งนายบิ๊กเล่าถึงตอนนี้ก็ร้องไห้ฟูมฟายน้ำตานองหน้า ผู้สื่อข่าวจึงถามว่าร้องไห้ทำไม นายบิ๊กตอบคิดถึงเมีย กลัวเขาไปมีผัวใหม่ แต่ก็พยายามทำใจว่าระหว่างติดคุกเขาคงไม่รอตนแน่
นอกจากนี้ชุดปฏิบัติการ ตชด.236 ได้ขยายผลจากคำให้การของนายเมฆ ว่า มีคนในพื้นที่ขี่รถจักรยานยนต์มารอรับ จึงสืบสวนสอบสวนจนทราบว่าชายที่ขี่ จยย.ชื่อนายก้อง ฉายาไอ้โล้นซ่า อายุ 26 ปี ควบคุมตัวมาสอบสวนพร้อมกับนายบิวอายุ 22 ปี เป็นคนบ้านกุดข้าวปุ้นทั้งคู่ ให้การว่าได้รับค่าจ้างครั้งละ 5-6 พันบาท ทำหน้าที่ขนยาเสพติดลงจากเรือริมแม่น้ำโขง และนำทางรถยนต์เข้าไปรับยาเสพติด ทำมาแล้วรวม 3 ครั้ง
สำหรับยาเสพติดเป็นเป็นเมทแอมเฟตามีนหรือไอซ์ บรรจุในถุงชายี่ห้อชิงซาน (QING SHAN) แปลว่า ภูเขาสีเขียว มีรูปดาวห้าดวง และกาน้ำชา ซีลด้วยพลาสติกสุญญากาศ 5 ชั้น ประทับตราตัวอักษร L ซึ่งจากประวัติการตรวจยึดยาไอซ์ยี่ห้อนี้ เคยยึดได้จากกลางทะเลภาคใต้จำนวนมาก คาดปลายทางส่งไปยังประเทศที่สาม นอกจากนี้ยังพบว่า ถุงชาแต่ละสีเป็นตัวกำหนดคุณภาพ ตามใบสั่งของลูกค้าประเทศปลายทาง อย่างเช่น ไอซ์ในห่อชาสีเขียว มีความบริสุทธิ์มากที่สุดเกือบร้อยละ 99 คุณภาพระดับส่งออก หรือ เกรดเอ
