บุกจับกุมคารีสอร์ต ที่จันทบุรี กลุ่มชาวจีน 42 คน หนีจากเมียนมา เข้ามาในไทย หวังเดินทางไปกัมพูชา พบโทรศัพท์มือถือกว่า 200 เครื่อง
วันนี้ ( 5 พ.ย.68) ตามนโยบายที่ พลตำรวจโท ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 ,พล.ต.ต.โชคชัย งามวงศ์ รองผบช.ภ.2 สั่งการให้ พล.ต.ต.ผดุงศักดิ์ รักษาสุข ผบก.ภ.จว.จันทบุรี ,พ.ต.อ.อรรฆพงษ์ สุนทรวิภาต รอง ผบก.ภ.จว.จันทบุรี พร้อมตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี และตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี คุมเข้มการลักลอบผ่านแดนโดยผิดกฎหมาย รวมถึงมีการประชาสัมพันธ์ให้ที่พัก รีสอร์ต ที่อยู่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ช่วยกันสอดส่อง กลุ่มคนต้องสงสัย ที่อาจจะเกี่ยวข้องกับขบวนการแก๊งคอลเซนเตอร์ หรือสแกรมเมอร์
กระทั่ง ตม.จว.จันทบุรี ได้รับการแจ้งจาก กก.สส.ภ.จว.จันทบุรี ว่า พบกลุ่มคนจีน หลายสิบคน เข้าพักที่รีสอร์ตแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ทับไทร อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี ตำรวจจึงนำกำลังตรวจค้น พบชาวจีนจำนวน 42 คน เข้าพักจำนวน 11 ห้อง และดำเนินการตรวจยึดสัมภาระ และของกลางได้หลายรายการ ทั้งโทรศัพท์มือถือ จำนวน215 เครื่อง โน๊ตบุ๊ก 11 เครื่อง เงินสดกว่า 8 แสนบาท แฟลชไดรฟ์ 4 อัน ซินการ์ดเมียนมา 10 หมายเลข ตรวจสอบหนังสือเดินทาง เบื้องต้น พบว่า คนจีนกลุ่มดังกล่าว มีหนังสือเดินทาง 7 เล่ม มีวีซายังไม่สิ้นสุด 3 เล่ม ไม่มีตราขาเข้าจำนวน 3 เล่ม และการอนุญาตสิ้นสุด 1 เล่ม ส่วนคนต่างด้าวสัญชาติจีนที่เหลือ 35 คน ไม่มีหนังสือเดินทางแต่อย่างใด
สอบสวนเบื้องต้นคนจีนกลุ่มดังกล่าว ส่วนใหญ่เดินทางมาจากประเทศเมียนมา โดยเดินทางเข้าไทยทางภาค เหนือ ก่อนจะเดินทางเข้ามาที่กรุงเทพมหานคร จากนั้นนั่งรถต่อไปยังจังหวัดจันทบุรี เพื่อจะเดินทางต่อไปยังประเทศกัมพูชา โดยทั้งหมด 42 คน ได้เข้าพักที่รีสอร์ตดังกล่าว เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 4 พฤศจิกายน 2568 ก่อนที่จะถูกจับกุม
เบื้องต้น แจ้งข้อหาชาวจีน จำนวน 38 คน ฐานหลบหนีเข้าเมือง , ข้อหาอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด จำนวน 1 คน และข้อหาจับกุมเปรียบเทียบปรับ ตามมาตรา 37(5) จำนวน 2 คน ก่อนที่จะทำบันทึกจับกุม และบันทึกตรวจยึด ส่งพนักงานสอบสววน สภ.โป่งน้ำร้อนดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งทางตำรวจจันทบุรี จะดำเนินการสืบสวนขยายผลต่อไป
