ห้องข่าวภาคเที่ยง - อดีตผู้ใหญ่บ้านแนงมุด จังหวัดสุรินทร์ ออกมาเรียกร้องให้ทหารไทยเข้าไปจัดการปัญหาการเข้ามาถือครองพื้นที่ "ปราสาทคนา" ของทหารกัมพูชา ล่าสุดยังสร้างสลิงกระเช้าส่งกำลังบำรุง
เป็นคลิปภาพพระและทหารกัมพูชา เร่งก่อสร้างกระเช้าส่งกำลังบำรุง บริเวณฐานทหารที่อยู่ใกล้กับปราสาทคนา อยู่ในพื้นที่ชายแดน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ และยังมีการสร้างถนน บันไดขึ้นสู่พื้นที่ดังกล่าวด้วย
จากการตรวจสอบพบว่า กระเช้าดังกล่าว มีจุดประสงค์หลักเพื่อใช้ลำเลียงสิ่งของและยุทธปัจจัยขึ้นไปบนฐานทหารกัมพูชา ไม่ใช่ใช้สำหรับคนขึ้นไป ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่ทั้งสองประเทศยังคงอ้างสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่
ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็น บางคนบอกว่า หัวใจประชาชนแตกสลาย แต่รัฐบาลกับทหารบางกลุ่มยังเป็นสุภาพบุรุษ ให้รุกรานเข้ามาเรื่อย ๆ บรรพบุรุษที่ยอมแลกเลือดเนื้อคงผิดหวังมาก
อีกคนบอกว่า พอเขมร จะทำอะไร ไม่เห็นแจ้งใครเลย
หรืออีกข้อความหนึ่งบอกว่า ทหารไทยทำอะไร ทหารเขมรจะจัดขวางทุกเรื่อง แต่ทหารเขมรทำอะไร ทหารไทยมองดูตาปริบ ๆ
ทีมข่าวไม่รอช้าเข้าไปคุยกับ นายวีรวัฒน์ พันธุ์ศิลป์ อดีตผู้ใหญ่บ้านแนงมุด หมู่ 1 ตำบลแนงมุด อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นคนแรกที่ออกมาเรียกร้องเอาปราสาทคนาคืน ยืนยันว่าปราสาทหนองคันนาน หรือ ปราสาทคนา ตั้งอยู่บนสันปันน้ำบนแผ่นดินไทย 100% อยู่ห่างจากหมู่บ้านแนงมุดไป 10 กิโลเมตร มีถนนเข้าไปเกือบถึงปราสาท
มองว่า การที่กัมพูชาทำกระเช้าขึ้นปราสาทคนา ไม่ควรทำ เมื่อมีการลงนามสันติภาพและถอนอาวุธหนักกันแล้ว จุดนั้นเป็นจุดสูงข่มและจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เป็นพื้นที่สูง มีโอกาสขนทั้งเสบียงทั้งอาวุธขึ้นมาได้ ถ้าขนอาวุธปืนใหญ่ขึ้นมาได้ ก็สามารถยิงเข้ามาในพื้นที่ของหมู่บ้านของไทยได้ง่าย ฝากทหารช่วยดูแล ตรวจสอบ ผลักดัน อย่าให้ขึ้นมาสร้างเป็นฐานใหญ่ตรงนั้น
ส่วนกิจกรรมทวงคืนปราสาทตาควาย เห็นทีจะเป็นหมัน ล่าสุดเจ้าของสถานที่จัดคือ โรงเรียนโคกตะเคียนวิทยา ตำบลโคกตะเคียน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ไม่อนุญาตให้จัดที่โรงเรียนแล้ว สาเหตุคือไม่อยากให้เกิดผลกระทบกับสถานที่ราชการ
ทำให้ นายไพรัช คำมณี อินฟูลเอ็นเซอร์ เจ้าของเพจเฟซบุ๊ก "อ้อ ไพรัช-คนกรุงเทพ เหลา" ต้องหาสถานที่ใหม่ เบื้องต้นต้องเป็นของเอกชนจะได้ไม่มีปัญหาการจัด ส่วนจะเป็นที่ใด รอหาสถานที่อยู่ และยังไม่ยืนยันว่าจะจัดในวันที่ 8 พฤศจิกายนนี้ ทันหรือไม่