ชุดสืบสวนภาค 7 สอบปากคำ เซียนพระฆ่าสาวถ่วงน้ำ เมียจับได้แอบมีกิ๊ก จึงนัดมาคุย แต่เกิดทะเลาะกับฝ่ายหญิง เจ้าตัวยืนยันก่อเหตุคนเดียว
ความคืบหน้าเซียนพระฆ่าสาวถ่วงน้ำ วันนี้ (7 พ.ย.68) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7 ,พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.พิทักษ์ อุปพงศ์ ผบก.ภจว.นครปฐม แถลงปิดคดีฆ่าสาวถ่วงน้ำในพื้นที่ สภ.บางเลน พร้อมชุดสืบสวนภาค 7 สามารถควบคุมตัวนายศุภโชค หรือ หน่อย ผู้ต้องหาได้ หลังจากขับรถยนต์เก๋งหนีการจับกุมและเสียหลักพุ่งเข้าป่าอ้อย ที่จังหวัดกาญจนบุรี
โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้นำตัวนายศุภโชคมาสอบปากคำที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 นายศุภโชค สารภาพว่า ได้รู้จักกับ น.ส.สกุลรัตน์ทางเฟซบุ๊ก จากนั้นได้มีความสนิทสนมได้ไปมาหาสู่กัน และมีการนัดเจอกันบ่อยครั้ง กระทั่งครอบครัวและญาติของ น.ส.สกุลรัตน์ เกิดความสงสัยในความสนิทสนมระหว่างนายศุภโชคและ น.ส.สกุลรัตน์ เนื่องจากญาติไม่อยากให้ทั้งคน 2 คบหากัน เพราะรู้ว่าตนมีภรรยาอยู่แล้ว ญาติของผู้ตายจึงได้ไปคุยกับภรรยาตน ทำให้ภรรยาเกิดความหึงหวงและทะเลาะกัน
จากนั้นวันที่ 2 พ.ย.68 ตนโทรศัพท์ติดต่อหาผู้ตายให้ออกมาพบ เพื่อจะพาไปเที่ยวและกินข้าว เมื่อผู้ตายออกจากบ้านประมาณเที่ยง หลังจากนั้นตนได้พาภรรยามาเจอกับผู้ตาย แต่ผู้ตายได้ขอตัวกลับ ตนจึงอ้างสารพัดไม่ให้ผู้ตายกลับ ก่อนจะยอมพาผู้ตายขึ้นรถยนต์ขับออกไป ระหว่างนั้นได้มีปากเสียงและทะเลาะกันภายในรถยนต์ ก่อนลงมือก่อเหตุใช้สายไฟรัดคอจนเสียชีวิต โดยสายไฟและครีมได้เตรียมขึ้นมาบนรถก่อน แต่ยืนยันว่าไม่มีใครช่วยเหลือในการอำพรางศพครั้งนี้ ตนทำเพียงคนเดียว
ทั้งนี้ หลังก่อเหตุได้นำรถยนต์ของผู้ตายไปฝากไว้ที่บ้านเพื่อน และนำสร้อยคอทองคำและสร้อยสร้อยข้อมือไปขายได้เงินมา 500,000 กว่าบาท โดยนำเงินบางส่วนไปซื้อรถยนต์ขับหลบหนี จนเกิดอุบัติเหตุและเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไว้ได้ ซึ่งหลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางเลน จะนำตัวผู้ต้องหาไปชี้จุด และรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อส่งดำเนินคดีต่อไป