วันนี้ (8 พ.ย. 68) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ร่วมกันจับกุมตัว นายปกรณ์ อายุ 27 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา ที่ 4840/2567 ลงวันที่ 1 ตุลาคม 2567 โดยกล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินหรือกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการอำพรางการให้กู้ยืมเงิน โดยมีลักษณะเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด”
โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ ซ.รัชดา 36 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ (28 ธ.ค. 66) ได้มีผู้เสียหายมาพบพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. โดยให้การว่าในช่วงประมาณเดือนพ.ย. 66 ผู้เสียหายได้พบโฆษณาในแอปพลิเคชัน Facebook เกี่ยวกับให้กู้เงิน ซึ่งในขณะนั้นผู้เสียหายกำลังประสบปัญหาด้านการเงิน ต้องการเงินมาหมุนใช้จ่ายทั่วไป จึงได้เข้าไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน และได้ทำการกู้ยืมเงินจากแอปพลิเคชันดังกล่าว
โดยการกู้ยืมเงินดังกล่าวเป็นการกู้ยืมเงินที่มีการคิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินกว่าอัตรา ที่กฎหมายกำหนด ในลักษณะของการชำระทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย ภายในระยะเวลา 7 วัน คิดเป็นอัตราดอกเบี้ยโดยรวมสูงสุดถึงร้อยละ 9.42 ต่อวัน หรือร้อยละ 3,474.80 ต่อปี ซึ่งเกินอัตราที่กฎหมายกำหนด และหากชำระหนี้ไม่ตรงตามกำหนดเวลาหรือล่าช้า จะมีการทวงถามหนี้ด้วยการด่าทอ ข่มขู่ และประจาน
จากการรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. พบว่ากรณีการกู้ยืมเงินดังกล่าว มีการร่วมกันลักลอบประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับของธนาคารแห่งประเทศไทย โดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดจริงโดยมีสมาชิก ทั้งหมด 24 ราย ได้ใช้บัญชีธนาคารของตนในการโอนเงินกู้ให้ผู้กู้และรับโอนค่าดอกเบี้ย พนักงานสอบสวนจึงได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหามาเพื่อรับทราบ ข้อกล่าวหาและดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหาไม่มาพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกแต่อย่างใด น่าเชื่อว่ามีพฤติการณ์หลบหนี จึงได้พิจารณาขออนุมัติหมายจับต่อศาลอาญา เพื่อนำตัวผู้ต้องหามาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ทำการสืบสวนจนทราบว่า นายปกรณ์ ได้หลบหนีมาอยู่ที่บริเวณ ซ.รัชดา 36 แขวงจันทร์เกษม เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นสถานที่พักอาศัยของผู้ต้องหา จนกระทั่งพบเห็น นายปกรณ์ กำลังยืนอยู่ที่บริเวณหน้าสถานที่ดังกล่าว จึงได้นำกำลังเข้าไปแสดงหมายจับเพื่อจับกุมตัว พร้อมทั้งได้แจ้งสิทธิตามกฎหมายและข้อกล่าวหาให้ทราบ จากนั้นนำส่งพนักงานสอบสวน กก.5 บก.ปอศ. เพื่อดำเนินการนำตัวผู้ต้องหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป