Open World เปิดโลกรายวัน : สรุปข่าวรอบโลกประจำวันที่ 11 พ.ย.68
1.กัมพูชาอ้างเป็น “ระเบิดเก่า” กรณีทหารไทยเหยียบกับระเบิด
หลังจากที่ฝ่ายไทยประกาศระงับการดำเนินการตามข้อตกลงใน "ถ้อยแถลงร่วม" (Joint Declaration) ระหว่างไทยและกัมพูชา จากเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ได้รับบาดเจ็บเพิ่มอีก เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พร้อมสั่งเลื่อนการมอบตัวเชลยศึกทหารกัมพูชา 18 นาย ทำให้กระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศของกัมพูชา ออกแถลงการณ์ระบุว่า รัฐบาลกัมพูชากังวลอย่างยิ่งต่อรายงานที่อ้างถึงคำกล่าวของผู้นำไทยที่ระบุว่า ไทยระงับการดำเนินการตามถ้อยแถลงร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีไทยและนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยมีประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เป็นสักขีพยาน
รัฐบาลกัมพูชาขอปฏิเสธอย่างเด็ดขาดต่อข้อกล่าวหาของไทยที่อ้างว่ากัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่ตามแนวชายแดนติดต่อกับไทย โดยทราบกันดีว่า ทุ่นระเบิดส่วนใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าวเป็นระเบิดที่ตกค้างจากช่วงสงครามกลางเมืองกัมพูชา จากเมื่อเกือบ 3 ทศวรรษก่อน ซึ่งยังไม่ได้รับการเก็บกู้ เนื่องจากสภาพภูมิประเทศที่ยากลำบากและเป็นพื้นที่ชายแดนที่ยังไม่ปักปันเขตแดน
นอกจากนี้ กัมพูชาขอยืนยันว่าจะยังคงมุ่งมั่นดำเนินการตามถ้อยแถลงร่วมต่อไป พร้อมยืนยันอีกครั้งว่า ในฐานะผู้สนับสนุนและรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรือ อนุสัญญาออตตาวา กัมพูชาไม่เคยใช้ทุ่นระเบิดใหม่ใด ๆ และจะไม่มีทางกระทำการเช่นนั้น
2.ระเบิดรถยนต์กลางเมืองหลวงอินเดีย ตายนับสิบคน
เมื่อช่วงก่อน 19 นาฬิกา วานนี้ (10 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นอินเดีย เกิดเหตุรถยนต์คันหนึ่งที่แล่นมาอย่างช้า ๆ ก่อนหยุดรถบริเวณแยกสัญญาณไฟจราจร ระเบิดขึ้น ใกล้ป้อมแดง (Red Fort) บริเวณย่านชุมชนที่มีประชากรหนาแน่นในกรุงนิวเดลี ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 10 คน บาดเจ็บอีกประมาณ 20 คน แรงระเบิดทำให้รถยนต์บริเวณใกล้เคียงเกิดเพลิงไหม้และเสียหายยับเยินหลายคัน มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารดูแลรักษาความปลอดภัยฝนจุดเกิดเหตุและสถานที่สำคัญอื่น ๆ อย่างเข้มงวด ส่วนสาเหตุเบื้องต้นยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ตำรวจสันนิษฐานว่าอาจเป็นการก่อการร้ายด้วยวิธีระเบิดฆ่าตัวตาย เนื่องจากขณะเกิดเหตุมีคนอยู่ในรถยนต์คันดังกล่าว 3 คน
ทั้งนี้ ป้อมแดง เป็นป้อมปราการยุคสมัยราชวงศ์โมกุล สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 17 โดยผสมผสานสถาปัตยกรรมแบบเปอร์เซียและอินเดีย ตั้งอยู่ในเขตเมืองเก่าและมีนักท่องเที่ยวแวะมาเยี่ยมชมตลอดทั้งปี
3.วุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างงบฯ ชั่วคราว เพื่อยุติ "ชัตดาวน์"
ช่วงค่ำวานนี้ (10 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ วุฒิสภาลงมติผ่านร่างงบประมาณชั่วคราว จนถึงวันที่ 30 มกราคม 2569 ด้วยคะแนนเสียง 60 ต่อ 40 เสียง โดยมีวุฒิสมาชิกจากพรรคเดโมแครต 8 เสียง ช่วยโหวตให้ แลกกับเงื่อนไขการจัดให้ลงมติเรื่องขยายเวลาลดหย่อนภาษีช่วยให้ผู้มีรายได้น้อยซื้อประกันสุขภาพ ภายใต้พระราชบัญญัติการดูแลสุขภาพราคาประหยัด ในเดือนธันวาคม ซึ่งทำให้สมาชิกพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่ไม่พอใจ เนื่องจากไม่มีการรับรองว่าพรรครีพับลิกันจะขยายเวลาลดหย่อนภาษีให้ตามที่พรรคเดโมแครตเรียกร้องหรือไม่
อย่างไรก็ตาม ร่างงบประมาณชั่วคราวนี้จะต้องได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎร ก่อนส่งไปให้กับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนาม ซึ่งนายไมก์ จอห์นสัน (Mike Johnson) โฆษกสภาผู้แทนราษฎรยืนยันว่าจะเร่งผ่านงบประมาณชั่วคราวดังกล่าวภายในวันพุธนี้ เพื่อนำไปสู่การยุติภาวะ "ชัตดาวน์" หน่วยงานรัฐบาลกลาง ซึ่งยืดเยื้อมานานกว่า 40 วัน ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ
4.มาเลเซียลุยค้นหา เรือผู้อพยพโรฮีนจาล่ม พบร่างแล้ว 21 คน
เจ้าหน้าที่มาเลเซียยังคงเดินหน้าปฏิบัติการลาดตระเวนและค้นหาผู้สูญหายในทะเลอันดามัน หลังเกิดเหตุเรือผู้เรือผู้อพยพชาวโรฮีนจาล่มนอกชายฝั่งบริเวณชายแดนไทย-มาเลเซีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และเรืออีกลำสูญหายไป ล่าสุด ทางการมาเลเซียรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 21 คน
โดยพบในเขตพรมแดนมาเลเซีย 12 คน และในฝั่งไทยอีก 9 คน และช่วยผู้รอดชีวิตได้แล้ว 13 คน อย่างไรก็ตาม ทางการมาเลเซียคาดว่า เหตุการณ์ครั้งนี้อาจทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เนื่องจากหากไม่มีเสื้อชูชีพหลายคนอาจประสบความยากลำบากในการเอาชีวิตรอด แม้เพียง 24 ชั่วโมง แต่บางคนอาจหาวัตถุลอยน้ำเกาะไว้ได้ ซึ่งการค้นหาก็ยังคงดำเนินต่อไปแม้สภาพอากาศจะไม่ค่อยเอื้ออำนวย
5.ไต้หวันเตรียมรับพายุไต้ฝุ่น "ฟงวอง" สั่งอพยพประชาชน
อิทธิพลจากพายุไต้ฝุ่น “ฟงวอง” (Fung-wong) ทำให้มีฝนตกหนักในไต้หวัน แม้ว่าจะเริ่มอ่อนกำลังลงแล้วก็ตาม โดยคาดว่าพายุ “ฟงวอง” จะเคลื่อนขึ้นฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของเกาะไต้หวันบริเวณท่าเรือหลักของนครเกาสง (Kaohsiung) ในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย. 68)
ทางรัฐบาลไต้หวันออกคำสั่งให้ประชาชนในเขตกว่างฟู่ (Guangfu) ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เคยเกิดน้ำท่วมหนัก ให้อพยพประชาชน 3,337 คน ในพื้นที่ 4 เขตและเมืองไปยังพื้นที่ปลอดภัยแล้ว นอกจากนี้ ในวันนี้มีรายงานเที่ยวบินอย่างน้อย 66 เที่ยวบิน ถูกยกเลิก ส่วนใหญ่เป็นเที่ยวบินภายในประเทศ ส่วนโรงเรียนและสำนักงานต่าง ๆ ในเทศมณฑลฮวาเลียน (Hualien) และอี๋หลาน (Yilan) ต้องปิดทำการ
ก่อนหน้านี้ เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา พายุไต้ฝุ่น “ฟงวอง” เพิ่งพัดเข้าถล่มฟิลิปปินส์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 คน และบาดเจ็บอีกเกือบ 30 คน