สืบนครบาล 3 บุกรวบหมอเถื่อนแอบเปิดคลินิกรักษาคนนานนับ 10 ปี โดยขณะบุกจับกำลังฉีดยาให้กับคนไข้สาวอายุ 30 ปี ซึ่งมีอาการเป็นไข้หวัด
เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนนครบาล 3 เข้าไปทำการจับกุมหมอเถื่อนระดับอาจารย์ ตั้งตนเป็นเจ้าของคลินิก เปิดทำการหลายแห่ง ก่อนหน้านี้ประสานกระทรวงสาธารณะสุขจะเข้าจับกุม ข่าวรั่ว ชิงปิดตัวไปก่อน คิดว่าเรื่องเงียบดอดมาเปิดอีกครั้งเจอสืบนครบาล 3 รวบคาเข็ม
สืบเนื่องด้วย กก.สส.บก.น.3 ได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่า หมอพงษ์ สหคลินิกเวชกรรม ในซอยรามคำแหง 166 แขวง / เขต มีนบุรี กรุงเทพมหานคร และ หมอวุฒิ สหคลินิกเวชกรรม ถนนสามวา แขวง / เขต มีนบุรี กรุงเทพมหานคร ลักลอบเปิดดำเนินการรักษาคนไข้ และออกใบรับรองแพทย์ โดยไม่ได้รับอนุญาต
เมื่อวันที่ 18 ก.ย. 2568 กก.สส.บก.น.3 มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจแฝงตัวเข้าไปทำการหาข่าว และขอให้ออกใบรับรองแพทย์ที่ หมอพงษ์ สหคลินิกเวชกรรม พบว่าชายที่อ้างตัวเป็นหมอ ระบุชีพจรและความดันโลหิตสูงด้วยตนเอง โดยไม่ทำการตรวจร่างกาย แต่อย่างใด และออกใบรับรองแพทย์โดยใช้ชื่อ แพทย์ผู้ตรวจ คือ นพ.อำนวย และเขียนสถานที่ตรวจ เคหะราม คลินิกเวชกรรม ซึ่งไม่ใช่ชื่อคลินิกที่ไปตรวจ
ต่อมาได้ทำการแฝงตัวเข้าไปเป็นคนไข้ที่ หมอพงษ์ สหคลินิกเวชกรรม อีกครั้งหนึ่ง คราวนี้ชายที่อ้างตัวเป็นแพทย์ ใช้ชื่อ แพทย์ผู้ตรวจ คือ นพ.จักรกริศน์ และประทับตรา เคหะราม คลินิกเวชกรรม เหมือนเดิม
วันเดียวกันเจ้าหน้าที่ ได้ทำการแฝงตัวเข้าไปทำการหาข่าว และ ทำการรักษาพยาบาล พร้อมขอให้ออกใบรับรองแพทย์ จาก หมอวุฒิ สหคลินิกเวชกรรม ชายอ้างตัวว่าเป็นหมอจะฉีดยาให้ แต่เจ้าหน้าที่ที่แฝงตัวปฏิเสธ ชายที่อ้างตัวเป็นหมอจึงได้จัดยาให้ และได้ออกใบรับรองแพทย์ ระบุ เคหะราม คลินิกเวชกรรม และเขียนชื่อ นพ.อำนวย
ต่อมา กก.สส.บก.น.3 ได้มีหนังสือถึงกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ขอสนับสนุนเจ้าหน้าที่ร่วมตรวจค้น จับกุมคลินิก หมอพงษ์ สหคลินิกเวชกรรม และ หมอวุฒิ สหคลินิกเวชกรรม ในวันที่ 22 ก.ย. 2568 เวลา 14.00 น. เมื่อเจ้าหน้าที่กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ พร้อม เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.น.3 เดินทางไปเพื่อตรวจค้น ไม่สามารถเข้าไปดำเนินการได้ เนื่องจากเป้าหมายน่าจะทราบข่าว ว่าจะเข้าไปตรวจค้นและจับกุม จึงได้ปิดลงก่อน
กระทั่งวันที่ เมื่อ 12 พ.ย. 68 กก.สส.บก.น.3 ทราบว่า หมอพงษ์ สหคลินิกเวชกรรม ได้เปิดดำเนินการแล้ว โดยใช้ชื่อ เคหะราม คลินิกเวชกรรม จึงได้มอบหมายให้สายลับแฝงตัวเข้าไปทำการตรวจรักษาและขอใบรับรองแพทย์อีกครั้ง โดยขณะเข้าไปพบชาย 2 คน ที่อ้างตัวเป็นหมอกำลังรักษาคนไข้หญิง อายุ 30 ปี ซึ่งมีอาการเป็นไข้หวัด โดยการฉีดยาให้ โดย นายณัฐวุฒิ อายุ 30 ปี เป็นผู้ซักถามอาการคนไข้ และฉีดยา ส่วนนายบุญวิวัฒน์ อายุ 50 ปี มีหน้าที่ทำการวินิจฉัยโรค และเขียนใบสั่งยา พร้อมออกใบรับรองแพทย์ให้คนไข้ จึงทำการจับกุม
พร้อมของกลางเป็น เงินสด ที่ได้จากการรักษาพยาบาลให้กับบุคคลไปก่อนหน้านี้ 1,390 บาท , เวชระเบียบผู้ป่วยเคหะรามคลินิกเวชกรรม เขียนด้วยมือ อยู่ในชิ้นลักตู้เอกสาร 2 ตู้ จำนวน 1,000 แผ่น , พบใบรับรองแพทย์ที่ยังไม่ลงชื่อคนไข้ สำหรับสมัครงาน จำนวน 1 เล่ม สำหรับประกอบการทำใบขับขี่ จำนวน 1 เล่ม และรับรองว่ามารักษาจริง จำนวน 1 เล่ม , พบ QR Code บัญชี พร้อมเพย์ e – Wallet สำหรับการโอนเงิน ชื่อนายบุญวิวัฒน์ ฯ พบเสื้อกราวของแพทย์สีขาว ปักชื่อ นพ.จักรกริศน์ จำนวน 1 ตัว เสื้อกราวแพทย์ ไม่ปักชื่อ จำนวน 3 ตัว , พบคอมพิวเตอร์ บันทึกรายการต่าง ๆ ของคนไข้ จำนวน 1 เครื่อง , พบยาไดอาซีแพม หรือยานอนหลับ ซึ่งเป็นวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 4 ขนาด 2 มก. และ 4 มก. บรรจุอยู่ในขนาดจำนวร 700 เม็ด , พบยาทรามาดอล หรือยาเขียว-เหลือง ซึ่งเป็นยาแก้ปวดชนิดฉับพลัน วัยรุ่นนิยมเอาไปผสมน้ำกระท่อมดื่ม จำนวน 900 เม็ด , พบยาเม็ดชนิดต่าง ๆ จำนวน 61 รายการ รวม 2,000 เม็ด , พบ ยาน้ำ 16 รายการ จำนวน 60 ขวด , พบน้ำเกลือ จำนวน 30 กระปุก , พบเข็มฉีดยา จำนวน 2 ลัด , พบยาฉีด จำนวน 25 รายการ จำนวน 1,500 หลอด พบอุปกรณ์ทำแผล จำนวน 10 ชุด และมีดผ่าตัด จำนวน 40 ชุด ไหมเย็บแผล จำนวน 20 ชุด
ทำการขอตรวจสอบใบอนุญาต ประกอบกิจการสถานพยาบาล นายบุญวิวัฒน์ ใบอนุญาตให้ประกอบสถานพยาบาล ชื่อ เคหะราม คลีนิกเวชกรรม ของนายบุญวิวัฒน์ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. 2559 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2568 จึงได้ทำการตรวจยึดไว้เป็นของกลาง ส่วนผู้ดำเนินการตามกฎหมายคือแพทย์ ที่ทำหน้าที่ ควบคุม ดูแล และรับผิดชอบในการดำเนินการสถานพยาบาล นั้น นายบุญวิวัฒน์ ฯ รับว่าก่อนหน้านี้เคยว่าจ้าง นพ.อำนวย เป็นผู้ดำเนินการเมื่อใบอนุญาตหมดลงทาง นพ.อำนวย ฯ ไม่ได้ต่อ จากนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็น “หมอพงษ์ คลีนิกเวชกรรม” ซึ่งนายบุญวิวัฒ์ ฯ เป็นผู้รับผิดชอบ และได้เปิดคลีกนิคเวชกรรม “หมอวุฒิ สหคลินิกเวชกรรม” ให้นายณัฐวุฒิ ฯ เป็นคนรับผิดชอบ ในการักษาคนไข้ด้วยตนเอง ส่วนการเขียนใบสั่งยา และเขียนใบรับรองแพทย์ จะใช้ชื่อ นพ.อำนวย และ นพ.จักรกริศน์ โดยสลับกันไปมาระหว่างคลินิกทั้ง 2 แห่ง เมื่อประมาณกลางเดือน ก.ย. 2568 ที่ผ่านมา ทราบว่า กก.สส.บก.น.3 และ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข จะเข้ามาทำการตรวจค้นจึงได้ปิดคลินิกทั้ง 2 แห่งไป เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจับกุม
เจ้าหน้าที่ทำการจับกุมตัวในข้อหา
1. เป็นผู้ดำเนินการสถานพยาบาลมิได้จัดให้มีผู้ดำเนินการเป็นผู้มีหน้าที่ควบคุม ดูแล และรับผิดชอบในการดำเนินการสถานพยาบาล
2. ประกอบวิชาชีพเวชกรรม โดยไม่ได้ขึ้นทะเบียนและรับอนุญาต
3. ร่วมกันปลอมและใช้เอกสารปลอม (ใบรับรองแพทย์)
4. ร่วมกันขายยาแผนปัจจุบันโดยไม่ได้รับอนุญาต
5. ร่วมกันมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งวัตถุออฤทธิ์ ในประเภท 4 ( ไดอาซีแพม ) โดยไม่ได้รับอนุญาต
ก่อนนำตัวพร้อมของกลาง ส่ง พ.ต.ท.หญิง สุวิมล มั่นใจ รอง ผกก.(สอบสวน) สน.มีนบุรี ดำเนินคดีตามกฎหมาย
