เช้านี้ที่หมอชิต - มาที่อุทาหรณ์ ใครมีผู้สูงอายุ อยู่ที่บ้าน อย่าปล่อยให้-ไปกดเงินที่ตู้ ATM โดยลำพัง อาจเจอมิจฉาชีพในคราบพลเมืองดีทำทีช่วยกดเงินก่อนยักยอกเงินของหญิงอายุ 62 ปี หายไป 1,000 บาท จนต้องแจ้งตำรวจไล่ล่าตัวมาดำเนินคดี
นางถวิล เสมารัมย์ อายุ 62 ปี ชาวอำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ โชว์สมุดบัญชี ธนาคารแห่งหนึ่ง ที่มียอดเงินเหลือเพียง 101 บาท หลังถูกมิจฉาชีพหญิง-ในคราบพลเมืองดี อายุประมาณ 35-40 ปี
ที่กำลังช่วยกดเงินจากตู้เอทีเอ็ม-ให้หญิงชราอีกคนอยู่พอดี นางถวิล จึงเอ่ยปากขอความช่วยเหลือช่วยกดเงินให้ เพราะแสงเข้าตา-มองเห็นไม่ชัด แต่ระหว่างกดเงิน-มิจฉาชีพ แจ้งมีเงินในบัญชีเพียง 5,000 บาท ไม่ใช่ 6,000 บาท ตามที่นางถวิลบอกว่า ลูกโอนเงินมาให้ 6,000 บาท เพื่อเป็นค่าไฟฟ้า และค่าใช้จ่ายในครอบครัว
ก่อนรีบไปปรับยอดเงินในสมุดบัญชี ก็พบ เงินถูก-กดออกมา 2 ครั้ง ครั้งแรกคือ 1,000 บาท ครั้งที่ 2 อีก 5,000 บาท ในชวงเวลาไล่เรี่ยกัน แต่ก็สายไป เพราะมิจฉาชีพหายไปแล้ว
นางถวิล ก็เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.สตึก เพื่อให้ ตำรวจ ช่วยติดตามตัว มิจฉาชีพคนดังกล่าวมาดำเนินคดีแล้ว พร้อมยังบอกว่า ถ้าไม่มีเงินน่า จะขอกันดี ๆ เพราะปกติจะช่วยเหลือคนอื่นประจำ ถ้าดูข่าวนี้ก็ให้รีบนำเงินมาคืน จะไม่เอาเรื่องใด ๆ
ตำรวจ ยังตั้งข้อสังเกต-พฤติการณ์มิจฉาชีพหญิง อาจปักหลัก-รอตามตู้ ATM โดยเฉพาะจุดที่มีคนสูงอายุใช้บริการเป็นจำนวนมาก ก่อนทำทีพร้อมช่วยเหลือ หนำซ้ำ คนชราหลายคนอาจไม่รู้ว่า เงินหายไป หากไม่มีการปรับสมุดบัญชี