โฆษก ก.กลาโหม เปิดหลักฐานคลิปจากโทรศัพท์มือถือ ทหารเขมรถ่ายเองเก็บกู้ทุ่นระเบิด ชนิดสังหารบุคคล 72B แล้วเคลื่อนย้ายเอาไปวางต่ออีกที่หนึ่ง ไม่ใช่การเก็บกู้เพื่อมนุษยธรรม
วันนี้ (17 พ.ย.68) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม, พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก (บก.), พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รองโฆษกสตช.), น.ส.โชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์, นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศ และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ
พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 16 ก.ค. 68 จนถึงปัจจุบัน หลายคนคงยังจำในเรื่องของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ รวมถึงเหตุการณ์ในวันที่ 10 พ.ย. 68 ที่ทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดจำนวน 6 นาย ทำให้เกิดเหตุการณ์ขาขาด ตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งพื้นที่เหล่านั้นล้วนอยู่ในอธิปไตยของไทยทั้งสิ้น นี้ก็เป็นข้อที่เรายังตั้งข้อสงสัยตลอดเวลา ว่าทำไมเหตุการณ์เหยียบทุ่นระเบิดยังเกิดขึ้น ทั้งที่ในช่วงที่ผ่านมา หน่วยปฏิบัติการต่าง ๆ ดำเนินการในเรื่องของการกวาดล้างทุ่นระเบิดในพื้นที่มาโดยตลอด
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวอีก เหตุการณ์จากการพิสูจน์ทราบโดยทีมงานชุดสำรวจ พบว่าจุดระเบิดนั้นมีความกว้างประมาณ 55 เซนติเมตร และโดยรอบยังพบทุ่นระเบิดอีก 3 ลูก ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่พร้อมใช้ การวางระเบิดจุดนี้เป็นการวางเป็นกลุ่ม เป้าหมายของการวางระเบิดในลักษณะนี้เป็นเป้าหมายถึงชีวิต ไม่ใช่เพียงแค่ให้เกิดทุพพลภาพหรือบาดเจ็บเท่านั้น
ระหว่างการแถลงข่าว พล.ร.ต.สุรสันต์ ได้เปิดคลิปวิดีโอที่ตรวจยึดได้จากโทรศัพท์มือถือของทหารกัมพูชา ซึ่งตกอยู่ในพื้นที่หลังการปะทะ นำไปตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ซึ่งผลตรวจยืนยันว่าไม่ใช่ภาพ AI แต่เป็นภาพที่บันทึกโดยทหารของกัมพูชาเอง มีภาพใบหน้าชัดเจนและเป็นภาพการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของชนิด 72B ซึ่งเป็นทุ่นระเบิดชนิดสังหารบุคคล
“ภาพจากคลิปจะเห็นได้ว่า กัมพูชาเขาไม่ได้เก็บกู้เพื่อมนุษยธรรม หรือจะไปช่วยเหลือใคร แต่เขาเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเคลื่อนย้ายเอาไปวางต่อ เป็นการย้ายระเบิดจากที่เดิม มาวางในพื้นที่ป่า นำทุ่นระเบิดมาใช้ในปฏิบัติการ ประเทศภาคีสมาชิกออตตาวา ต้องไม่พึงกระทำ”
