ห้องข่าวภาคเที่ยง - ตำรวจส่งศพเจ้าของโรงงานผลิตกะปิชื่อดังเมืองตรัง กับลูกบุญธรรม รวม 3 ศพ ไปผ่าชันสูตร หลังยังติดใจ พบปืนอยู่ในมือซ้าย แต่เบื้องต้นคาดเจ้าตัวเครียดสะสม ก่อนยิงลูกบุญธรรม แล้วยิงตัวตาย
ความคืบหน้าหลังจากช่วงค่ำเมื่อวานนี้ ตำรวจ สภ.นาโยง จังหวัดตรัง รับแจ้งเหตุยิงกันตายในบ้านหลังหนึ่ง ในซอยคงแก้ว ตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง
เมื่อไปตรวจสอบในที่ห้องโถง พบศพ นายพรศักดิ์ อายุ 28 ปี ถูกยิงด้วยกระสุนปืนที่ขมับขวา ในห้องนอนพบศพ นายสุเมธ ถูกยิงด้วยกระสุนขนาดเดียวกันที่ขมับขวา และพบศพ นายสมคิด อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน ถูกยิงที่ขมับซ้าย ในมือซ้ายพบปืนที่ใช้ก่อเหตุ
ตำรวจสันนิษฐานว่านายสมคิด เป็นคนลั่นไก ตรวจสอบภายในบ้าน พบว่าช่วงตี 2 วันที่ 17 พฤศจิกายน มีการสับเบรกเกอร์ตัดกระแสไฟฟ้า ทำให้กล้องวงจรปิดไม่ทำงาน คาดเป็นช่วงเวลาก่อเหตุ
นายอำนวยพร เพื่อนบ้านให้การว่า ช่วง 23.00 น. คืนวันที่ 16 พฤศจิกายน เห็นทั้ง 3 คน ตั้งวงดื่มสุราที่หน้าบ้านตามปกติ จนช่วงตี 2 ครึ่ง ตนไปตัดหญ้าให้วัว เห็นว่าบ้านดับไฟไปแล้ว ไม่ได้สังเกตความผิดปกติ จนช่วง 09.00 น. พบญาติ นายสมคิด เดินทางมาหา แต่ก็ติดต่อกันไม่ได้ จึงเดินทางกลับ จนช่วงเย็น ญาติกลับมาอีกรอบ ถึงได้พบว่าทั้ง 3 คนเสียชีวิต
ตำรวจสอบสวน ทราบว่า นายสมคิด เคยบวชหลายปีหลายปี ส่วนอีก 2 คน เป็นลูกบุญธรรม นายสมคิด ทำธุรกิจโรงกะปิส่งขายในจังหวัดและพื้นที่ใกล้เคียง แต่ก่อนรายได้ดี แต่ช่วงหลังประสบปัญหาขายไม่ดี และมีปัญหาหนี้สิน
ขณะที่เช้าวันนี้ ร้อยเวร สภ.นาโยง ส่งศพผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ ไปผ่าพิสูจน์ศพที่ โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ส่วนตำรวจชุดสืบสวน เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด ทุกจุดตรวจในพื้นที่ เพื่อหาเบาะแสเพิ่มเติมว่า มีใครเข้าออกบ้านหลังดังกล่าวหลังจากที่ได้รับแจ้งเหตุ ซึ่งการชันสูตรพลิกศพ ในที่เกิดเหตุ พบอาวุธปืน นายสมคิด อยู่ที่มือซ้ายของนายสมคิด ทำให้ตำรวจต้องตรวจสอบพยานหลักฐานต่าง ๆ อย่างละเอียด แต่เบื้องต้นเชื่อว่านายสมคิดลงมือใช้อาวุธปืนยิง บุตรบุญธรรมทั้ง 2 คนก่อนที่จะใช้อาวุธปืนยิงตัวเองตายตาม