หนุ่มชาว สปป. ลาว โดน 4 หนุ่มไทยรุมยำ แจ้งความแล้วไม่คืบหวั่นเรื่องเงียบ คนก่อเหตุข่มขู่ตลอด จึงพากันมาร้องสื่อให้ช่วย เผยสาเหตุถูกรุม คาดเหม็นขี้หน้า วอนตำรวจเร่งดำเนินคดี
(19 พ.ย.68) ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจาก ชาย อายุ 29 ปี สัญชาติลาว อาศัยอยู่บ้านเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี หลังถูกกลุ่มเพื่อนบ้านรุมทำร้ายร่างกายและหวั่นเกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงร้องขอให้สื่อมวลชนช่วยติดตามความคืบหน้าคดี เนื่องจากยังถูกข่มขู่เป็นระยะ และไม่กล้ากลับไปอยู่บ้าน พร้อมกับนำคลิปหลักฐานที่ถูกชายไทย 4 คนรุม ทั้งเท้าทั้งหมัดกระหน่ำใส่ไม่ยั้งกลางชุมชน
ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2568 ขณะกำลังขับรถกลับมาเอาของที่บ้าน เนื่องจากต้องย้ายไปพักที่อื่น ระหว่างขับรถผ่านหน้าบ้านของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งเรียกให้จอด “บอกว่าอย่าเพิ่งไป” ตนจึงจอดรถ หลังจากจอดได้ไม่นาน กลุ่มชายที่นั่งอยู่หน้าบ้านจำนวน 4 คน ได้เดินมาล้อมรถก่อนจะรุมทำร้าย โดยหนึ่งในนั้นพูดข่มขู่ว่า “จะขอโทษกูไหม” ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีความขัดแย้งกันมาก่อน แต่รู้จักกันเพราะอยู่ละแวกเดียวกัน และมักทักทายกันตามปกติ
การถูกทำร้ายครั้งนี้ทำให้ได้รับบาดเจ็บบริเวณใบหน้า จมูก และขมับทั้งสองข้าง ถูกทั้งเท้าและหมัดหลายครั้ง หลังเกิดเหตุได้เข้าแจ้งความกับตำรวจทันที พร้อมทั้งสอบถามความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง แต่ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตามขั้นตอน ทำให้กังวลว่าจะถูกมองข้าม
ชายชาวสปป.ลาว คนนี้ ยังบอกอีกว่า หลังเกิดเหตุหนึ่งในกลุ่มผู้ทำร้ายได้ข่มขู่ว่า “ถ้าเจอกันจะเอาให้หมอบ” ทำให้ไม่กล้ากลับเข้าบ้าน ต้องไปอยู่ที่อื่น และใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก
ทั้งนี้เมื่อถูกถามว่าเคยมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติดหรือไม่ ชายชาวสปป.ลาว ยอมรับว่า เคยยุ่งเกี่ยวในอดีตแต่เลิกแล้ว ส่วนกลุ่มคู่กรณี น่าจะมีบางคนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด แต่ไม่แน่ชัดว่าปัจจัยใดเป็นสาเหตุให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงครั้งนี้ อาจเป็นเพราะเมาสุรา หรืออาจไม่ชอบหน้าเป็นการส่วนตัว มองว่าสาเหตุที่ถูกรุมทำร้ายอาจจะเป็นเพราะไม่ชอบขี้หน้าหรือมองว่าตนเองหันหลังให้ยาเสพติดแล้วก็เป็นได้
ชายชาวสปป.ลาว ย้ำว่า ที่ออกมาร้องเรียนเพราะต้องการความคุ้มครองและอยากให้คดีคืบหน้า ไม่อยากให้เรื่องเงียบ พร้อมฝากถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจให้เร่งดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุโดยเร็ว เพราะยังถูกข่มขู่เรื่อย ๆ และหวั่นเกรงความปลอดภัยในชีวิต ผู้เสียหายระบุว่า ปัจจุบันยังไม่มีอาชีพหลักอาศัยอยู่กับพ่อชาวไทยและต้องย้ายออกจากบ้าน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเหลือและติดตามความเป็นธรรมให้กับตนด้วย ผ
หลังผู้เสียหายร้องเรียน ผู้สื่อข่าวได้นำข้อมูลทุกอย่างแจ้งให้กับ พ.ต.ท.ดิษฐวัฒน์ ถาวรสินพงศ์ รองผู้กำกับสอบสวน และหัวหน้างานสอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี รับทราบเพื่อช่วยติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ระบุว่าจะเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป