ห้องข่าวภาคเที่ยง - คุกไม่ได้มีไว้ขังคนจน คำพูดนี้ตอกย้ำความสะดวกสบายของผู้ต้องขังระดับวีวีไอพี ทั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะรัฐมนตรี หรือ ผู้บัญชาการเรือนจำกรุงเทพมหานคร คนใดก็พูดมาตลอดว่าผู้ต้องขังทุกคนมีความเท่าเทียมกัน
แต่เรื่องราวกลับไม่เป็นไปตามที่ว่า หลังปฎิบัติการจู่โจมตรวจค้นเรือนจำพิเศษกรุงเทพ เช้า วันที่ 16 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
กลายเป็นเรื่องฉาวระดับประเทศ เพราะพบ ไมโครเวฟ กาน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้า และวัตถุมีคมจำนวนมาก ที่อ้างว่าได้รับการบริจาค ซ้ำร้ายมีการพาหญิงสาวต่างชาติเข้าไปมีความสัมพันธ์กันในพื้นที่เรือนจำ เพราะเจ้าหน้าที่พบนักโทษจีนเทา พร้อมกับหญิงสาวต่างชาติ และกล่องถุงยางอนามัย
เพื่อให้เห็นภาพ จึงนำภาพทางเข้าเรือนจำคลองเปรมมาให้ชม เนื่องจากทางเข้ามีความคล้ายคลึง ซึ่งจะเห็นว่าก่อนเข้าประตูชั้นที่ 1 จะพบล็อกเกอร์ไว้ฝากสิ่งของมีค่า และเมื่อเดินผ่านเข้าไปจะพบประตูเหล็กชั้นที่ 2 จุดนี้เราจะพบทางเดินทอดยาว เพื่อเข้าสู่แดนกักพื้นที่ต่าง ๆ
ซึ่งภายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ จะมีบ้านพักรับรองของผู้บัญชาการเรือนจำ ก่อนถึงอาคารที่ญาติผู้ต้องขังเข้าเยี่ยม ส่วนฝั่งตรงข้ามอาคารเป็นออฟฟิศ 2 ชั้น ซึ่งเวลาสื่อมวลชนไปทำข่าวก็ถูกพาเดินมาที่อาคารหลังนี้ พาเดินขึ้นบันไดไปห้องประชุมชั้น 2 เพื่อบรีฟข้อมูล โดยห้องนี้อยู่ตรงข้ามกับห้องทำงานผู้บัญชาการเรือนจำ ซึ่งไม่มีนักข่าวคนไหนเคยได้เข้าไป
ส่วนห้องที่ปล่อยให้นักโทษจีนเทามีสัมพันธ์ คาดว่าเป็นห้องชั้น 1 ที่มีข้อมูลว่ารีโนเวตใหม่ เนื่องจากอยู่ใกล้กับห้องน้ำ
ทีมข่าว 7HD สอบถาม นายจตุพร พรหมพันธ์ อดีตผู้ต้องขังในเรือนจำ ยอมรับว่าประเด็นนี้เพิ่งเคยได้ยิน แม้ตนเองจะเคยเข้า - ออก เรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ถึง 5 รอบ
หลังมีคำสั่งย้าย นายมานพ ชมชื่น อดีตผู้บัญชาการเรือนจำ และผู้คุม รวม 15 นาย พร้อมตั้งคณะตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม บอกว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่านายมานพทำเพราะย่ามใจ หรือ ทำมานานแล้ว และต้องไปขยายผลตรวจสอบเรือนจำพื้นที่อื่น ๆ ด้วยว่ามีพฤติกรรมแบบนี้หรือไม่ และหากผิดวินัยจริง ก็ดำเนินการขั้นเด็ดขาด
