เจ้าหน้าที่ อช.แก่งกระจาน พบซาก “ช้างป่า” ตายในสวนของชาวบ้าน พบลวด 5 เส้นพันรอบตัว เบื้องต้นสัตวแพทย์ระบุถูกไฟฟ้าช็อตจนล้ม ขณะที่เจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานส่งสอบสวนดำเนินคดีกับผู้กระทำผิด
วันนี้ (21 พ.ย. 68) จากกรีเมื่อวานนี้ (20 พ.ย. 68) เวลา 08.00 น. นายประยูร อายุ 73 ปี เจ้าของสวนใน ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้แจ้งกำนันบุญลือ มั่งมี กำนันตำบลป่าเด็ง หลังพบช้างป่านอนตายในสวนของตนเอง ขณะกำลังจะลงมาฉีดยา
ทางคณะเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน นำโดย นายนิทัศน์ นุ่นสงค์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาขาเพชรบุรี พร้อมด้วย นายมงคล ไชยภักดี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน, นายฉลอง ทองสงฆ์ หัวหน้าศูนย์เฝ้าระวังและผลักดันช้างป่า ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพื้นที่
จากการตรวจสอบพบซากช้างป่า สีดอ เพศผู้ อายุประมาณ 15 ปี น้ำหนักประมาณ 3 ตัน นอนตายในท่าตะแคงซ้าย มีลักษณะเหมือนชักเกร็ง ขาหลังเหยียดตรง พบรอยไหม้บริเวณผิวหนัง และมีลวดพันอยู่บริเวณขาหลังข้างขวาพาดลำตัว สภาพภายนอกไม่พบรอยบาดแผลจากกระสุนปืน แต่พบร่องรอยไฟไหม้จากลวดที่พันขา โดยพบว่าลวดที่ใช้ขึงรั้วล้อมรอบสวนมีถึง 5 เส้นด้วยกัน หลังจาดนั้นนายสัตวแพทย์อนุรักษ์ สกุลพงษ์ ได้ทำการผ่าชันสูตรและสรุปว่าสาเหตุการตายเกิดจากไฟฟ้าช็อต โดยได้เก็บอวัยวะภายในส่งห้องปฏิบัติการตรวจหาสารพิษเพิ่มเติม ส่วนซากช้าง ทางเจ้าหน้าที่ได้ขุดฝังซากช้างด้วยรถแบ็กโฮบริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติที่ กจ.7 (เขาหุบเต่า)
ทางคณะพนักงานเจ้าหน้าที่ พิจารณาแล้วการกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 มาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง ประกอบ มาตรา 89 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี ปรับไม่เกิน 1 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 13 ผู้ใดล่าสัตว์ป่าที่เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ด้วยความจำเป็น และภายใต้เงื่อนไขดังต่อไปนี้ ผู้นั้นไม่ต้องรับโทษ (1) เพื่อให้ตนเองหรือผู้อื่นพ้นจากอันตราย หรือเพื่อสงวนหรือรักษาไว้ซึ่งทรัพย์สินของตนเอง หรือ ผู้อื่น และ (2) การล่านั้นได้กระทำพอสมควรแก่เหตุผู้กระทำตามวรรคหนึ่งต้องไม่เคลื่อนย้ายสัตว์ป่าหรือซาก สัตว์ป่าที่ถูกล่านั้น เว้นแต่กรณีมีความจำเป็น และต้องแจ้งเหตุที่ได้ล่าหรือเคลื่อนย้ายสัตว์ป่านั้นต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ทราบโดยพลัน
ในกรณีเช่นว่านี้ ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ร่วมกับพนักงานสอบสวนดำเนินการตรวจสอบเหตุแห่งการล่าหรือเคลื่อนย้ายสัตว์ป่าโดยเร็ว และให้ดำเนินการแก่สัตว์ป่าหรือซากสัตว์ป่านั้นตามระเบียบที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการ และ พระราชบัญญัติป้องกันการหารุณกรรมสัตว์ พ.ศ. 2557 มาตรา 20 ห้ามมีให้ผู้ใดกระทำการอันเป็นทารุณกรรมสัตว์โดยไม่มีเหตุอันสมควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมเอกสารหลักฐานส่ง สภ.แก่งกระจาน เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดแล้ว
โดยการติดตั้ง “รั้วไฟฟ้า” ที่ใช้ป้องกันสัตว์ป่าที่ถูกต้องตามมาตรฐานควรมีแรงดันไฟฟ้าไม่เกิน 1,000 - 10,000 โวลต์ ขึ้นอยู่กับชนิดของสัตว์ โดยต้องใช้เครื่องควบคุมพลังงานที่ได้มาตรฐาน และมีกระแสไฟฟ้าต่ำ (กระแสไฟไม่เกิน 120 มิลลิแอมแปร์) เพื่อให้กระแสไฟฟ้าเป็นแบบกระตุกเป็นช่วงสั้น ๆ และมีกระแสต่ำ (High Voltage, Low Current) ซึ่งให้ความเจ็บปวดแต่ไม่ถึงแก่ชีวิต
อย่างไรก็ตาม หากนำไฟฟ้ากระแสสลับจากระบบไฟฟ้าบ้าน (220 โวลต์) มาต่อตรงกับลวดรั้วโดยไม่มีอุปกรณ์ควบคุม จะมีอันตรายร้ายแรงต่อทั้งคนและสัตว์ เนื่องจากกระแสไฟต่อเนื่องและมีพลังสูงพอที่จะทำให้เสียชีวิตได้
โดยกรณีนี้การพบลวดถึง 5 เส้นพันรอบตัวช้าง บ่งชี้ว่าอาจมีการใช้ไฟฟ้ากำลังสูงเกินมาตรฐาน ซึ่งเป็นอันตรายร้ายแรง เผชิญความผิดหลายมาตราตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562