ตร.รวบชายวัย 39 ปี ขี่รถจยย. ชิงทองหญิงวัย 54 ปี สารภาพเป็นหัวหน้าครอบครัว หาเงินใช้หนี้ไม่ทัน

ตร.รวบชายวัย 39 ปี ขี่รถจยย. ชิงทองหญิงวัย 54 ปี สารภาพเป็นหัวหน้าครอบครัว หาเงินใช้หนี้ไม่ทัน

View icon 90
วันที่ 25 พ.ย. 2568 | 08.02 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (25 พ.ย. 68) พ.ต.ท.การุณย์ ลิมปิโรจนฤทธิ์ รอง ผกก.สส. สภ.ปากเกร็ด , พ.ต.ท.ยศธเดช สุขเทียบ สว.สส.สภ.ปากเกร็ด, และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ปากเกร็ด ได้ร่วมกันจับกุมตัว นายสุพจน์ อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรีที่ 1548/2568 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2568 ซึ่งต้องหาว่ากระทำผิดฐาน “วิ่งราวทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือการพาทรัพย์นั้นไป หรือให้พ้นการจับกุม” พร้อมของกลาง คือ 1.หมวกกันน็อก แบบเต็มใบสีดำลายสีฟ้า 2.หมวกผ้าแบบคลุมหน้าสีดำ 3.รองเท้าแตะแบบสวม 4.หมวกกันน็อกแบบครึ่งใบ สีฟ้า 5.เสื้อคลุมไรเดอร์ (เปลี่ยนขณะหลบหนี) 6.เสื้อแขนยาวสีดำ 7.กระเป๋าสะพายข้างสีดำ 8.คูปองลุ้นรับโชค เลขที่ 535 ประจำงวดวันที่ 1611 68 ที่ได้จากการขายสร้อยคอทองคำ 9.รถจยย. สีเทา ซึ่งเป็นยานพาหนะที่ใช้ในการก่อเหตุ

เนื่องจากวันที่ (8 พ.ย. 68)  เวลา 09.45 น. นายสุพจน์ ให้การว่าได้ก่อเหตุวิ่งราวทรัพย์ สร้อยคอทองคำน้ำหนัก 1 บาท โดยใช้ยานพาหนะ บริเวณสามแยกภายในซอยขจรเนติยุทธ์ 1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

หลังจากที่นายสุพจน์ ได้ขี่รถจยย. หนีไปที่เมืองทองและไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดไรเดอร์ ก่อนจะขี่หนีกลับไปที่บ้าน และอยู่กับลูกเมียตามปกติ ก่อนจะถูกตำรวจรวบภายหลัง

จากการสอบบถาม นายสุพจน์ เผยว่า ตนพักอยู่ที่ลาดกระบังใช้รถจยย. ขี่มาก่อเหตุที่ปากเกร็ด หลังจากนั้นได้ขี่รถจยย. กลับลาดกระบังแต่ระหว่างทางมีการเปลี่ยนชุดแต่งกายและหมวกกันน็อก ตอนก่อเหตุใส่ชุดเสื้อสีดำหลังก่อเหตุเสร็จใส่เสื้อสีส้มสวมทับและเปลี่ยนหมวกกันน็อกที่เมืองทอง และกลับไปขายทองที่ลาดกระบัง

โดยสาเหตุที่ก่อเหตุมีปัญหาหลายเรื่อง ทั้งหนี้สินรุมเร้าค่าใช้จ่ายไม่พอใช้โดนไฟแนนซ์ตามทวง เพิ่งเคยก่อเหตุครั้งแรก ตนอยากจะขอโทษทางผู้เสียหาย ซึ่งที่เลือกก่อเหตุที่ปากเกร็ดเพราะเคยอาศัยอยู่ที่ปากเกร็ดมาก่อนไม่ได้คิดมาก่อนว่าจะขโมยอะไรเพราะขี่รถมาจากลาดกระบัง เจออะไรก็จะทำเลยไม่ได้วางแผนไว้ หลังก่อเหตุนอนไม่หลับทุกคืน คิดอยู่แล้วว่าจะโดนจับแต่ไม่รู้วันไหน

โดยทองที่ได้มาครึ่งเส้นเพราะมันขาดอีกครึ่งนึงหาไม่เจอได้นำไปขายได้เงินมาจำนวน 34,000 บาท ใช้หนี้หมดภายในวันเดียว และจ่ายค่าไฟที่ค้างไว้ประมาณ 3 เดือน ไม่ได้เอาเงินไปทำอะไรเลย

ทางด้าน พ.ต.ท.ยศธเดช สุขเทียบ สว.สส.สภ.ปากเกร็ด ได้มีการพูดคุยกับ นายสุพจน์ ผู้ก่อเหตุ  ได้นั่งปรับทุกข์สารภาพทุกข้อกล่าวหา และอยู่ในช่วงที่ภรรยาตกงาน จึงหมดหนทางและมาก่อเหตุ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง