“ นายก ฯ ” มอบนโยบายจัดทำงบปี 2570 ย้ำ เร่งเยียว ปชช.ที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วม วอน ภาครัฐ-เอกชน หากจัดสัมมนา ขอให้จัดในพื้นที่ประสบภัยพิบัติก่อน ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่น้ำท่วม ชี้ต้องปรับงบปี 70 สอดรับสถานการณ์ เหตุ หาดใหญ่สร้างขวางทางน้ำ
วันนี้ (1ธ.ค.68) ในการมอบนโยบายการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2570 วงเงิน 3,788,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 จำนวน 7,400 ล้านบาท หรือ เพิ่มขึ้น 0.2 % โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการมอบนโยบาย
โดยช่วงหนึ่งของการมอบนโยบาย นายอนุทิน ได้กล่าวถึง การกำหนดนโยบายสำคัญ เพื่อแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ของประเทศ 5 ด้าน ได้แก่ ด้านเศรษฐกิจ ด้านการต่างประเทศ ด้านสังคม ด้านภัยธรรมชาติ และด้านภัยความมั่นคง
ในการจัดทำงบประมาณเพื่อรองรับเหตุภัยพิบัติทางธรรมชาติ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า รัฐบาลจะพัฒนาเครือข่ายการเตือนภัยพิบัติ โดยเฉพาะในพื้นที่ประสบภัยธรรมชาติ เช่น ในพื้นที่ที่มีน้ำท่วมเป็นประจำทุกีป และมีความเสี่ยงสูง หมอกควัน ต้องใช้แนวทางป้องกันก่อนเกิดเหตุ และต้องเร่งเยียวยา ฟื้นฟู ผู้ประสบภัยให้กลับมามีชีวิตที่ปกติสุขโดยเร็ว
อย่างที่ได้ทราบกันดีว่าตนได้ใช้เวลาในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ลงพื้นที่ต่างจังหวัดหลายครั้ง เพื่อหาความช่วยเหลือ ให้กับประชาชนในจังหวัดที่ประสบปัญหาภัยพิบัติ และได้เห็นสภาพปัญหาปีนี้ประชาชนเผชิญกับภัยพิบัติเช่นน้ำท่วมสาหัสใหญ่เกินจริง เรื่องการเยียวยาจึงขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยด่วนที่สุด ให้มีความครอบคลุม และทั่วถึง ลดขั้นตอน เพื่อให้การช่วยเหลือเงินต่าง ๆ งบประมาณต่าง ๆ นโยบายต่าง ๆ ได้ไปถึงมือของประชาชนผู้ประสบความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า หากหน่วยงานใดทั้งภาครัฐและเอกชน ตนจะขอความร่วมมือ และช่วยรับไปพิจารณาอย่างตั้งใจมุ่งมั่น ว่าหากมีการประชุม การสัมมนา หรือการอบรม ในช่วงนี้ถือเป็นช่วงท้ายของปี อยากขอให้เลือกจังหวัดที่เกิดภัยพิบัติเหล่านี้ เพื่อให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่พื้นที่ให้มากที่สุดเช่น อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งเตรียมพร้อมรับท่องเที่ยวนักกีฬาซีเกมส์ ที่จะเกิดขึ้นภายในสัปดาห์นี้ แต่เมื่อเกิดเหตุอุทกภัยโรงแรมที่เตรียมการไว้แล้ว ก็ต้องยกเลิกไป เพราะสภาพพื้นที่ไม่อำนวยให้มีการจัดกีฬา ทำให้การลงไปของนักท่องเที่ยว กองเชียร์ และผู้สนใจในกีฬา ต้องยกเลิกการสำรองห้องพัก ซึ่งจะทำให้เกิดความเสียหายตามมา (Consequential Damage) อีกมากมาย
จึงขอถือโอกาสนี้ ฝากหัวหน้างานหากไปประชุมหรือสัมมนาในประเทศ ขอให้ไปช่วยเหลือในจังหวัดที่โชคไม่ค่อยดีเหมือนจังหวัดอื่น ๆ และมีการประสบภัยพิบัติต่าง ๆ เหล่านี้เพื่อเป็นการฟื้นฟูให้ประชาชนมีรายได้และสิ่งเหล่านี้ก็จะช่วยให้วิถีชีวิตที่ดีขึ้นกับประชาชนคู่เกาะล้านและผู้ประสบภัยจะได้มีเม็ดเงินไหลเวียนเข้าไปได้มากที่สุด จึงขอความเมตตาจากทุกคนให้ช่วยพิจารณาในเรื่องนี้เพื่อพี่น้องร่วมชาติของเราที่มีความโชคร้ายที่ต้องเจอภัยจากธรรมชาติเราต้องเยียวยาพวกเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
นอกจากนี้ เราต้องรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญของทุก ๆประเทศ ให้ประเทศไทยบรรลุเป้าหมาย Net zero และลดการเผาในภาคการเกษตร สร้างความมั่นคงทางพลังงาน ส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดพลังงานแสงอาทิตย์ และจัดตั้งตลาดซื้อขายคาร์บอนเครดิต เราต้องเริ่มให้กับลูกหลานของเรา และอนาคตของประเทศไทย เราต้องเป็นผู้เริ่มนับหนึ่งให้ได้ เพื่อบรรลุเป้าหมายให้เป็น 0 % เหลือเวลาอีกเพียง 25 ปีเท่านั้น (ปี 2593)
ช่วงเวลาที่เป็นรัฐบาลของตนได้บริหารประเทศ ตนอยากนามสกุล “หลีกภัย” แต่กลับได้นามสกุล “เจอภัย” ทั้งภัยเศรษฐกิจ ภัยความมั่นคง ภัยสังคม และภัยธรรมชาติ ตั้งแต่เดือนกันยายนจนถึงปัจจุบัน มีภัยเศรษฐกิจ ซึ่งเศรษฐกิจตกต่ำทั่วโลก จึงต้องเร่งดำเนินมาตรการ Quick Big Win ให้ประชาชนมีความพึงพอใจ มีความเชื่อมั่น รัฐบาลก็พยายามทำต่อเพื่อให้ประชาชนมีขวัญกำลังใจ
ขณะที่ ภัยความมั่นคงเรามีปัญหาพิพาทกับกัมพูชา ประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตนได้เห็นความทุ่มเท เสียสละ อดทนเป็นอย่างยิ่งของคนไทย ตลอดจนความอดทน ความมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาปกป้องอธิปไตย รักษาบ้านเมือง ของทางกองทัพ ตำรวจ ฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง ตนเข้ามาในช่วงที่พีคพอดี จะไม่มีขาที่แปด ถ้ามีขาที่แปด เราต้องแสดงให้คนคิดว่าประเทศไทยของเราเป็นสิ่งที่ต่อรองไม่ได้ ตนเชื่อว่าพี่น้อง และกองทัพ คงทราบดีว่าเราคงต้องให้เขาได้ยินว่าประเทศไทยเป็นอย่างไร ตนยังเชื่อมั่น แม้เรามีบทกลอนสอนว่า ”ไทยนี้รักสงบแต่ถึงรบไม่ขลาด” ตนได้พบกับพี่น้อง เพื่อนข้าราชการฝ่ายความมั่นคงมาตลอด เชื่อว่าไทยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากต้องรักษาเอกราชของชาติ รักษาเกียรติภูมิเกียรติยศ และไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากชนะลูกเดียวหากต้องมีการต่อสู้กัน นี่คือนโยบายที่จะบอกว่า รัฐบาลต้องให้การสนับสนุนกองทัพในการรักษาอธิปไตยอย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า สำหรับภัยธรรมชาติ พายุ น้ำท่วม จากสภาพอากาศโลกที่เปลี่ยนแปลง เราจะต้องทำให้งบประมาณสอดรับกับสถานการณ์ของประเทศ และสถานการณ์ของโลกที่เปลี่ยนไป โดยมีเป้าหมายเพื่อประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งในปี 2570 ตน และสำนักงบประมาณจะช่วยกันทบทวนงบประมาณเพื่อให้ความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชนและต้องหาทุกกลยุทธ์ทุกรูปแบบในการจัดทำงบประมาณเพื่อช่วยให้ประชาชนพ้นจากภัย 4 ข้อที่ตนได้กล่าวมา บางครั้งต้องทบทวนว่าการพัฒนาตัวเองอาจจะกลับมาทำลายตัวเองในอนาคต เช่น อำเภอหาดใหญ่ ที่มีการสร้างถนนเยอะแยะมากมาย โดยคาดไม่ถึงว่าอาจเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดอุทกภัย และน้ำท่วมใหญ่ ตามมาเพราะการทำถนน เพื่อทำให้ระบบการคมนาคมขนส่งสะดวก แต่อาจจะไปทำลายเส้นทางน้ำ กีดขวางทางเดินของน้ำทำให้เกิดปัญหาขึ้น ซึ่งในหลายจังหวัด ในยามที่ไม่มีปัญหาก็หาถนนร้องหารถไฟอยากได้ทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ไปถึงจุดหมายปลายทางได้เร็วที่สุด แต่เมื่อมีเหตุเกิดขึ้นวันนี้ทุกคนร้องหาคลอง ร้องหาทางน้ำ แต่บางครั้งมันก็สายเกินไปเพราะมันมีความเสียหายเกิดขึ้น ก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองของงบประมาณ เพราะต้องนำงบประมาณมาเยียวยาดูแลมหาศาล ซึ่งที่ผ่านมามองว่าเราให้ความสำคัญกับคมนาคมขนส่งแต่ตอนนี้ต้องมาให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการภัยพิบัติจากธรรมชาติ ซึ่งมีกฎหมายหลายตัวที่ต้องแก้ไข และมีนโยบายที่ต้องแก้ไขบรรเทาสาธารณภัย ซึ่งต้องป้องกันไม่ใช่แค่การซื้ออุปกรณ์อย่างเดียว