ย่าพาหลานชายวัย 8 ขวบ และ 11 ขวบ ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์จะไปรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ร้านค้าในตัวอำเภอ หลังเงินเพิ่งเข้า 1,150 บาท ระหว่างทางเกิดอุบัติเหตุถูกรถกระบะนายฮ้อยบรรทุกวัวชนอย่างจัง ส่งผลให้ย่าเสียชีวิตทันที ส่วนหลานสาหัสทั้งคู่
วันที่ 1 ธ.ค.68 เมื่อเวลา 18.30 น.ร.ต.อ.ปรีชาศักดิ์ ศักดิ์ยปรีชา รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.บ้านด่าน อ.บ้านด่าน จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้ได้รับบาดเจ็บหลายราย จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมกู้ชีพโรงพยาบาลบ้านด่าน และกู้ชีพเทศบาลตำบลบ้านด่าน
ที่เกิดเหตุเป็นที่กลับรถบ้านหัวถนน ถนน 4 เลน สายบุรีรัมย์ – สตึก พบรถจักรยานยนต์ยี้ห้อฮ้อนด้า สีแดง ถูกอัดกับเสาเกาะกลางถนนในสภาพพังยับเยิน ใกล้กันพบร่างของนางสาวนา อายุ 64 ปี นอนคว่ำหน้าหมดสติ ข้างกันพบร่าง น้องเอ อายุ 8 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.2 นอนหงายท้องหมดสติ ประมาณ 10 เมตร พบน้องบี อายุ 11 ปี เด็กนักเรียนชั้น ป.5 ในสภาพสวมชุดนักเรียนนอนหมดสติอยู่ข้างเกาะกลางถนนเช่นกัน โดยทั้ง 3 คนเป็นย่าและหลานกัน ทั้งหมดมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหลายแห่ง เจ้าหน้าที่เร่งปฐมพยาบาลนำส่งโรงพยาบาลบ้านด่าน แต่นางสาวนา ซึ่งเป็นย่าได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วน น้องบีและน้องเอ 2 พี่น้องได้ถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ เนื่องจากอาการสาหัส
สอบถามนายอ้วน อายุ 53 ปี เจ้าของรถยนต์กระบะสภาพรถด้านหน้ากระจกแตก กระจังหน้ารถได้รับความเสียหาย เล่าว่า ตนเองนำวัวขึ้นรถมาจากบ้านจำนวน 5 ตัว เพื่อที่จะนำไปขายที่ตลาดนัด โค กระบือ ที่จังหวัดยโสธร หลังจากออกจากตัวเมืองบุรีรัมย์ได้ขับขวามาตลอด เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุช่วงกลับรถ รถจักรยานยนต์ย่าหลานซึ่งซ้อนท้ายกันมาได้ขับพุ่งตัดหน้าแบบกระชันชิดทำให้ตนเองเบรกไม่ทันจึงชนกลางคันรถจักรยานยนต์เสียงดังสนั่น ก่อนที่จะลากน้องบีไปไกลเกือบ 10 เมตร
ด้านนายจำลอง อายุ 62ปี น้องชายผู้เสียชีวิต เล่าว่าทุกต้นเดือนพี่สาวจะไปรูดบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ร้านค้าในตัว อ.บ้านด่าน ซึ่งวันที่ 1 ธ.ค.68 จะได้รับเงินพิเศษเพิ่มอีก 850 บาท บวกของเดิม 300 บาท รวมเป็นเงิน 1,150 บาท โดยรอบนี้ได้พาหลานชายทั้ง 2 คน นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปด้วย แต่ไปไม่ถึงร้านค้ามาเกิดอุบัติเหตุเสียก่อน เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการตรวจสอบถึงสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในครั้งนี้อีกครั้ง
