เวลา 08.57 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เขตราชเทวี ทรงเปิดอาคารเฉลิมพระเกียรติ (อาคารศูนย์สถานการณ์จำลองทางการแพทย์ทหาร) ซึ่งเป็นอาคารสูง 7 ชั้น ออกแบบอาคารเป็นเซลล์ประสาทที่สอดประสานเป็นเครือข่ายเชื่อมต่อกันของสมองมนุษย์ เป็นสัญลักษณ์ขององค์ความรู้ที่เกิดจากการริเริ่มสร้างสรรค์ทางปัญญาของมนุษย์ ไปสู่การค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นตลอดเวลา ได้รับพระราชทานพระราชานุญาตให้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 และพระราชทานชื่ออาคาร พร้อมพระราชทานพระราชาอนุญาตให้เชิญตราสัญลักษณ์ประดับที่ป้ายอาคาร
โอกาสนี้ ทรงวางพวงมาลัยถวายราชสักการะพระบรมรูป พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร แล้วทรงพระดำเนินไปทอดพระเนตรห้องศูนย์ฝึกทักษะระบบจำลองด้านการแพทย์สิ่งแวดล้อมเสมือนพื้นที่กว้าง, การสาธิตการจำลองจากการดูแลผู้ป่วยเจ็บทางยุทธวิธี เป็นการถอดบทเรียนจากยุทธภูมิภูมะเขือในการดูแลระหว่างการปะทะด้วยตนเอง จัดแสดงอุปกรณ์ปฐมพยาบาลพระราชทาน หรือ IFAK ประกอบด้วย อุปกรณ์ปฐมพยาบาลเบื้องต้น เช่น สายรัดห้ามเลือด อุปกรณ์พยุงทางเดินหายใจ ผ้าห่ม และเปลทาลอน เปลสนามพระราชทานใช้ลำเลียงผู้บาดเจ็บในพื้นที่ มีขนาดกะทัดรัด มีน้ำหนักเบา และสามารถพับได้
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังชั้น 3 ทอดพระเนตรการจำลองที่พยาบาลกองพัน จัดตั้ง ณ โรงพยาบาลพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ สาธิตการปฏิบัติของนายแพทย์ ผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ กองพันทหารราบ ในการช่วยชีวิตขั้นสูงประเมินและแก้ไขทางเดินหายใจอุดกั้น การใส่ท่อระบายทรวงอก และการให้เลือด เพื่อแก้ไขภาวะช็อก, การจำลองโรงพยาบาลสนามกองทัพบกส่วนหน้า ที่จัดตั้ง ณ โรงพยาบาลปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เป็นการบูรณาการทรัพยากรร่วมกันระหว่างกรมแพทย์ทหารบกและกระทรวงสาธารณสุข ในการรักษากำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้ง การถวายรายงานข้อมูล โดยแพทย์ที่ทำการรักษากำลังพลที่บาดเจ็บจากราชการ มีการจำลองเป็นหอผู้ป่วยแผนกเวชศาสตร์ฟื้นฟู โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า มีการสาธิตขาเทียมแบบต่าง ๆ ที่กำลังพลต้องใช้หลังการรักษา เพื่อให้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ และการถวายรายงานกิจการในพระราชูปถัมภ์ เช่น การประชุม IMRC เวทีแข่งขันนำเสนองานวิจัยสำหรับนิสิต นักศึกษาแพทย์จากทั่วโลก ชิงถ้วยพระราชทาน, การนำเสนอนวัตกรรมเพื่อช่วยวินิจฉัยและรักษาโรคตะกอนหินปูนหูชั้นในเคลื่อน จากผู้ได้รับทุนมูลนิธิศิษย์นายร้อยตามรอยพระบาททูลกระหม่อมอาจารย์ ในพระราชูปถัมภ์ฯ และการถวายรายงานกิจการร้านยา โดยมูลนิธิโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในพระราชูปถัมภ์ฯ ที่ได้รับชื่อพระราชทานว่า "สิรินธโรสถ"
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารพระมงกุฎเกล้าเวชวิทยา ทรงเปิดงานประชุมวิชาการวาระพิเศษเนื่องในโอกาสวันสถาปนาวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ครบปีที่ 50 ซึ่งกองทัพบก โดยกรมแพทย์ทหารบก ศูนย์อำนวยการแพทย์พระมงกุฎเกล้า โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ร่วมกันจัดขึ้นจนถึงวันที่ 4 ธันวาคมนี้ เพื่อเป็นเวทีเผยแพร่ผลงานทางวิชาการนวัตกรรม องค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ทหาร การแพทย์ทั่วไป รวมทั้ง ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ความร่วมมือทางวิชาชีพ ระหว่างบุคลากรทางการแพทย์ของกองทัพ กับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อยกระดับมาตรฐานการแพทย์ทหารของไทย ให้ก้าวทันความเปลี่ยนแปลงของโลก
โดยการประชุมครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่รวม 3 งานประชุมแพทย์ทหาร มี 3 กิจกรรมหลัก ประกอบด้วย การประชุมวิชาการระดับนานาชาติ ที่อัปเดตองค์ความรู้ด้านเวชศาสตร์ทหาร, การแพทย์ภัยพิบัติ และมาตรฐาน Global Standard of Care จากวิทยากรชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ, การประชุมวิชาการโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ครั้งที่ 53 เพื่อก้าวเป็นผู้นำการปฏิรูปการแพทย์ทหารสู่ระดับสากล และมหกรรมคุณภาพโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และโรงพยาบาลในสังกัดกองทัพบก ประจำปี 2568 ครั้งที่ 21 แหล่งรวมนวัตกรรม การพัฒนาคุณภาพ และบทเรียนการปฏิบัติงานจริงในพื้นที่ ซึ่งดำเนินงานตามแนวคิด "50 ปี วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เคียงข้างโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า : ผู้นำการปฏิรูปการแพทย์ทหาร จากภารกิจกองทัพ สู่ความเป็นเลิศทางวิชาชีพระดับสากล" สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า ที่ร่วมเคียงข้างโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้ามาโดยตลอด ในการพัฒนาการศึกษา การบริการทางการแพทย์ การวิจัยทางวิทยาศาสตร์สุขภาพ เพื่อสร้างบุคลากรทางการแพทย์ทหารที่มีความรู้ ความสามารถ คุณธรรม มีจิตอาสา พร้อมอุทิศคนเพื่อประเทศชาติ ประชาชน และภารกิจกองทัพ
เวลา 14.06 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องประชุม 1210 ชั้น 12 อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย พระราชทานพระราชวโรกาสให้ คณะบุคคลเฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล รวมทั้ง เพื่อหน่วยโรคไต โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย, เพื่อการพัฒนาศูนย์มะเร็งแบบบูรณาการ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และเพื่อสมทบทุนบริจาคช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ตามโครงการร่วมปันน้ำใจช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย สภากาชาดไทย
จากนั้น พระราชทานประกาศนียบัตรกำกับเข็มสมาชิกกิตติมศักดิ์แด่พระภิกษุ จำนวน 3 รูป, พระราชทานประกาศนียบัตรกำกับเหรียญกาชาดสมนาคุณ ชั้นที่ 1 แก่ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายกเหล่ากาชาดจังหวัดที่ช่วยเหลืองานสภากาชาดไทย ผู้บริจาคเงิน ผู้ช่วยเหลืองานสภากาชาดไทยและเหล่ากาชาดจังหวัด ผู้บริจาคเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิต ผู้บริจาคโลหิตและพลาสมา ครบ 100 ครั้ง และพระราชทานประกาศนียบัตรกำกับเข็มสมาชิกกิตติมศักดิ์แก่ทายาทผู้บริจาคดวงตา และทายาทผู้บริจาคอวัยวะ รวมทั้งสิ้น 293 คน
สภากาชาดไทย เป็นองค์กรการกุศลระดับชาติที่ให้บริการโลหิตและส่วนประกอบโลหิต อวัยวะ และผลิตภัณฑ์ชีววัตถุแก่โรงพยาบาลทั่วประเทศ โดยมีศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ เป็นหน่วยงานหลักในการจัดหาโลหิตให้มีปริมาณเพียงพอ ปลอดภัย และมีคุณภาพสูงสุดจากผู้บริจาคโลหิตด้วยความสมัครใจโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยทั่วประเทศ มีการจัดตั้งศูนย์ดวงตา สภากาชาดไทย เพื่อรับบริจาคดวงตาจากผู้มีกุศลจิต และมอบดวงตาที่ผู้บริจาคถึงแก่กรรมแล้วให้จักษุแพทย์ เพื่อนำไปใช้รักษาผู้ป่วยกระจกตาพิการ และมีศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย ทำหน้าที่รับบริจาคอวัยวะและเนื้อเยื่อที่ปลอดภัยจากผู้บริจาค เพื่อนำมารักษาผู้ป่วยทั่วประเทศอย่างเพียงพอ
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารเทิดพระเกียรติสมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ สุวฑฺฒโน) สภากาชาดไทย พระราชทานพระราชวโรกาสให้คณะบุคคล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายกุญแจรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่ จำนวน 3 คัน และรกตู้ จำนวน 1 คัน แล้วพระราชทานกุญแจรถรับบริจาคโลหิตเคลื่อนที่และรถตู้ ให้แก่ผู้อำนวยการศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย
ต่อจากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องรับรอง พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดที่พ้นจากตำแหน่งหน้าที่ ประจำปีงบประมาณ 2568 เฝ้าทูลละอองพระบาท รับพระราชทานประกาศนียบัตรขอบคุณและสรรเสริญ, ผู้ที่ได้รับรางวัลเหรียญฟลอเรนซ์ ไนติงเกล ครั้งที่ 50 ปีพุทธศักราช 2568 เข้ารับพระราชทานเหรียญฟลอเรนซ์ ไนติงเกล รวมทั้ง มีคณะบุคคล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงินโดยเสด็จพระราชกุศล เพื่อการก่อสร้างอาคารผู้ป่วยนอก โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และเพื่อสมทบโครงการหน่วยแพทย์จักษุศัลยกรรม สภากาชาดไทยในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี รวมทั้ง เลขาธิการสภากาชาดไทย เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายคาแรกเตอร์ "หน้านิ่ง"
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องประชุมใหญ่ ชั้น 9 ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการสภากาชาดไทย ครั้งที่ 359 เพื่อติดตามผลการดำเนินงานต่าง ๆ ของสภากาชาดไทย มีระเบียบวาระ อาทิ รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมการอำนวยการกลุ่มบริการโลหิต อวัยวะ และผลิตภัณฑ์ชีววัตถุ, สำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด รายงานผลการดำเนินงาน โครงการส่งเสริมและพัฒนาการพูด อ่าน เขียนภาษาไทย ของสภากาชาดไทย, โครงการยุทธศาสตร์และการย้ายโรงงานผลิตชีววัตถุและยาปราศจากเชื้อของสถานเสาวภา สภากาชาดไทย, สรุปรายงานการถวายผ้าพระกฐินสภากาชาดไทย ประจำปี 2568 ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ สุพรรณบุรี ตำบลรั้วใหญ่ อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุพรรณบุรี เมื่อวันอังคาร ที่ 14 ตุลาคม 256 และสำนักงานจัดหารายได้ เสนอการจัดงานกาชาด ประจำปี 2568 ณ สวนลุมพินี ระหว่างวันที่ 11-21 ธันวาคม 2568