ทีมสัตวแพทย์ เผย ลูกช้างป่า "ข้าวต้ม" มีอาการดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง กินนมและน้ำข้าวต้มได้มากขึ้น แถมแสดงพฤติกรรมร่าเริงและมีกำลังมากกว่าช่วงก่อนหน้า แต่ยังต้องคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
วันนี้ (3 ธ.ค. 68) สัตวแพทย์หญิง ณฐนน ปานเพ็ชร นายสัตวแพทย์ชำนาญการและหัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงฉวาก รายงานสุขภาพของ "ข้าวต้ม" ลูกช้างป่า เพศเมีย ในช่วงวันที่ 1-2 ธันวาคม ที่ผ่านมา โดยลูกช้างมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ แม้ปริมาณอาหารที่รับประทานได้จะยังน้อยกว่าที่สัตวแพทย์คำนวณไว้ แต่สามารถกินได้มากขึ้นกว่าเดิม
ส่วนเรื่องการขับถ่ายพบว่า ปัสสาวะเป็นปกติ ส่วนอุจจาระมีลักษณะเหลวปนเนื้อครีมเล็กน้อย ทั้งนี้ไม่พบภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำกว่าเกณฑ์ปกติในทุกช่วงเวลาที่ตรวจวัด
ทางทีมสัตวแพทย์นำโดยนายสัตวแพทย์ วิศรุต ปิยะศิริศิลป์ จากกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า ได้รักษา “ข้าวต้ม” อย่างต่อเนื่อง โดยให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำและพยุงระดับน้ำตาลในเลือด ให้วิตามินบำรุงร่างกาย ยาบำรุงตับ รวมถึงยาลดอาการปวดเกร็งท้องเมื่อพบอาการ นอกจากนี้ยังมีการดูแลรักษาแผลและแผลกดทับบริเวณผิวหนังอย่างใกล้ชิด ด้วยการทำความสะอาดแผล พ่นยา และทายารักษาแผล พร้อมใช้เลเซอร์บำบัดแผลกดทับ
ทั้งนี้ “ข้าวต้ม” มีพฤติกรรมร่าเริงกว่าปกติ มีพลังมากขึ้น แสดงความสนใจต่อพี่เลี้ยงและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด อย่างไรก็ตาม ทีมสัตวแพทย์ยังต้องติดตามประเมินอาการอย่างใกล้ชิดเป็นรายวัน และมีคนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้แน่ใจว่าลูกช้างจะฟื้นตัวอย่างสมบูรณ์