จับรถสวมทะเบียน ใช้เอกสารปลอม เจ้าของรถไม่เคยไปอยุธยา แต่มีใบสั่งมาถึงบ้าน

จับรถสวมทะเบียน ใช้เอกสารปลอม เจ้าของรถไม่เคยไปอยุธยา แต่มีใบสั่งมาถึงบ้าน

View icon 16
วันที่ 8 ธ.ค. 2568 | 10.36 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (8 ธ.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ได้ร่วมกันจับกุม นางสาวปามิกาฯ ในความผิดฐาน “ปลอมและใช้เอกสารทางราชการปลอม”

โดยสามารถเข้าทำการจับกุมตัวได้ที่บริเวณ ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา พร้อมกันนี้ได้ทำการตรวจยึดของกลางสำคัญหลายรายการ ประกอบด้วย รถยนต์ สีขาว จำนวน 1 คัน, แผ่นป้ายทะเบียนปลอม จำนวน 2 แผ่น, แผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีปลอม จำนวน 1 แผ่น และกุญแจรถยนต์อีก 1 ดอก

พฤติการณ์ในการจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากประชาชนรายหนึ่ง ซึ่งเป็นเจ้าของรถยน สีขาว ที่ได้รับใบสั่งจากการกระทำความผิดกฎหมายจราจรในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา

ทั้งที่เจ้าของรถตัวจริงยืนยันอย่างหนักแน่นว่า ตนเองและรถยนต์คันดังกล่าวไม่เคยเดินทางไปยังพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันและเวลาที่เกิดเหตุตามที่ระบุในใบสั่งเลยแม้แต่น้อย

ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ผู้ร้องทุกข์เชื่อมั่นว่ามีผู้ไม่หวังดีนำแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ของตนไปสวมเข้ากับรถยนต์คันอื่นเพื่อใช้งานอย่างผิดกฎหมายอย่างแน่นอน จึงได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรเมืองสมุทรปราการ และได้ประสานข้อมูลมายังตำรวจทางหลวงเพื่อขอความช่วยเหลือในการสืบสวนติดตามรถยนต์คันที่สวมทะเบียนดังกล่าวมาดำเนินคดี

ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชุดจับกุมจึงได้วางแผนและลงพื้นที่ออกตรวจการณ์ในบริเวณที่เกิดเหตุตามที่ได้รับแจ้งอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งได้พบรถยนต์ สีขาว คันดังกล่าว ซึ่งมีลักษณะและติดแผ่นป้ายทะเบียนตรงกับรถของผู้เสียหายทุกประการ กำลังสัญจรอยู่บนถนนโรจนะ

โดยมีนางสาวปามิกา เป็นผู้ขับ เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและส่งสัญญาณให้หยุดรถเพื่อขอทำการตรวจสอบ จากการตรวจสอบหมายเลขตัวถังของรถยนต์คันดังกล่าวอย่างละเอียด พบว่าข้อมูลหมายเลขตัวถังไม่ตรงกับข้อมูลที่ปรากฏในแผ่นป้ายแสดงการเสียภาษีประจำปีที่ติดอยู่บริเวณกระจกหน้ารถ

และเมื่อตรวจสอบอย่างละเอียดก็พบว่าทั้งแผ่นป้ายทะเบียนและเอกสารแสดงการเสียภาษีเป็นของที่ถูกปลอมแปลงขึ้นมาทั้งสิ้น เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาให้นางสาวปามิกา ทราบ พร้อมทั้งทำการตรวจยึดรถยนต์และเอกสารปลอมทั้งหมดไว้เป็นของกลาง ก่อนจะนำตัวผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรพระนครศรีอยุธยา เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การว่า ได้รับรถยนต์คันนี้มาจากบุคคลใกล้ชิดเมื่อประมาณ 1 ปีก่อน และได้ใช้งานมาโดยตลอด โดยตนเองไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นรถที่ใช้เอกสารและแผ่นป้ายทะเบียนปลอม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง