ญาติร่ำไห้ ชายป่วยโรคมะเร็ง เสียชีวิตในศูนย์พักพิงฯ

View icon 55
วันที่ 9 ธ.ค. 2568 | 06.04 น.
เช้านี้ที่หมอชิต
แชร์
เช้านี้ที่หมอชิต - ตลอดทั้งวันระหว่างเปิดปฏิบัติการทางทหารตลอดแนวชายแดนอีสาน และตะวันออก ทำให้ชาวบ้านต้องเร่งอพยพกันอลหม่าน และเกิดเรื่องเศร้าภายในศูนย์พักพิงชั่วคราว ที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีผู้อพยพซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงเสียชีวิต

ญาติร่ำไห้ ชายป่วยโรคมะเร็ง เสียชีวิตในศูนย์พักพิงฯ
นาทีญาติกอดกันร่ำไห้ เสียใจ หลังจากได้มาดูใจและบอกลา คุณตาสนั่น อายุ 64 ปี เป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นลมหายใจจากไปอย่างสงบด้วยโรคมะเร็ง ซึ่งนับเป็นศพที่ 2 แล้วที่เสียชีวิตหลังจากอพยพมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราวภายในวัดแห่งนี้ อยู่พื้นที่ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราว ภายในวัดแห่งหนึ่ง เมื่อวานมีผู้อพยพทยอยเข้าไปอยู่เพิ่มขึ้นมากกว่า 20 คน โดยส่วนใหญ่ทางศูนย์ฯ จะเน้นรับเฉพาะผู้ป่วยติดเตียง เนื่องจากสถานที่มีความพร้อม และมีนักกายภาพบำบัดคอยดูแลประจำ

เร่งอพยพกลุ่มเปราะบางไปยังศูนย์พักพิงฯ
ส่วนที่อำเภอบ้านกรวด จังหวัดบุรีรัมย์ เจ้าหน้าที่ระดมรถกู้ชีพกู้ภัย ช่วยลำเลียงกลุ่มเปราะบาง มีทั้งผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง ที่ยังตกค้างออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังศูนย์พักพิง ท่ามกลางเสียงปืนใหญ่จากการปะทะดังอย่างต่อเนื่อง

นายประชา ชาวบ้านเผยว่า ต้องดูแลภรรยาป่วยเป็นเส้นเลือดในสมองตีบ ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ นอนติดเตียงมานานกว่า 5 ปีแล้ว สู้รบครั้งก่อนไม่ได้อพยพออกจากบ้าน เพราะเคลื่อนย้ายลำบาก แต่ครั้งนี้คิดว่าสถานการณ์น่าจะรุนแรงกว่าครั้งก่อน จึงตัดสินใจประสานเจ้าหน้าที่ให้มาช่วยลำเลียงภรรยาที่ป่วยติดเตียง ออกจากบ้านมาอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราว ชีวิตน่าจะปลอดภัยกว่า

ที่จังหวัดสุรินทร์ ชาวบ้านจากอำเภอพนมดงรัก บางส่วนที่ยังตกค้างจากวันก่อน ซึ่งส่วนมากเป็นกลุ่มผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียง เมื่อวานญาติพาต้องเคลื่อนย้ายด้วยความระมัดระวัง หวั่นอาการป่วยกำเริบ

เร่งอพยพผู้สูงอายุ-ทารกแรกเกิด
เช่นเดียวกับที่โรงพยาบาลปราสาท หลังประกาศปิดให้บริการชั่วคราว ทีมแพทย์ และหน่วยกู้ภัยสุรินทร์ต้องเข้าช่วยเคลื่อนย้ายผู้ป่วย และทารกแรกเกิดไปพร้อมกับเตียงผู้ป่วยด้วย เพื่อนำฝากรักษายังโรงพยาบาลอื่นเป็นการชั่วคราว ท่ามกลางเสียงยิงปืนดังขึ้นเป็นระยะ ๆ

สั่งปิดเรียน 641 แห่ง และอพยพผู้ป่วยหนัก
กระทรวงสาธารณสุข ยกระดับปฏิบัติการตามแผนตอบโต้ภาวะฉุกเฉินระดับ 2 เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยจากโรงพยาบาลในพื้นที่เสี่ยงทั้งหมด ไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่ปลอดภัย พร้อมสำรอง เตียง ICU เตียงผู้ป่วยทั่วไป สำรองคลังเลือด ยาและเวชภัณฑ์ไว้รองรับสถานการณ์แล้ว

สำหรับผู้ป่วยเปราะบางและติดเตียง ได้จัดระบบติดตามดูแลต่อเนื่อง รวมถึงผู้ป่วยที่ต้องได้รับการฟอกไต มีการกระจายไปยังหน่วยบริการฟอกไตต่าง ๆ และจัดรถรับ-ส่ง กรณีผู้ป่วยไม่มีรถ พร้อมจัดทีมด้านการแพทย์ และสาธารณสุขดูแลประชาชนที่อพยพมาพักในศูนย์พักพิงต่าง ๆ และกำชับให้ทุกจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากตกใจได้นำส่ง รพ.ตาพระยา และมรณภาพในเวลาต่อมา

จากสถานการณ์ปะทะตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สั่งให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประสานไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในสังกัด ทั้ง 5 จังหวัด ได้แก่ อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และสระแก้ว เพื่อปิดเรียนชั่วคราว

โรงเรียนใน จังหวัดสุรินทร์ ปิด 145 แห่ง, จังหวัดศรีสะเกษ ปิด 170 แห่ง, จังหวัดอุบลราชธานี ปิด 54 แห่ง, จังหวัดบุรีรัมย์ ปิด 127 แห่ง, จังหวัดสระแก้ว ปิด 147 แห่ง รวมทั้งสิ้น 641 แห่ง โดยจะปิดการเรียนการสอนจนกว่าสถานการณ์จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพื่อความปลอดภัยของครู นักเรียน และบุคลากรทางการศึกษาทุกคน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง