ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา สรุปเหตุการณ์ปะทะ มีทหารไทยเสียชีวิต 1 นาย ได้รับบาดเจ็บ 29 นาย
ที่ศูนย์แถลงข่าวร่วมสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงสรุปสถานการณ์ภาพรวม เหตุการณ์ปะทะกันของทหารไทยและกัมพูชา ตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการเปิดฉากยิงของฝ่ายกัมพูชา บริเวณภูผาเหล็ก พลาญหินแปดก้อน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ส่งผลให้มีทหารไทยได้รับบาดเจ็บ 2 นาย
จากนั้น การปะทะขยายเป็นวงกว้างตามแนวชายแดน อีกหลายพื้นที่ ทหารกัมพูชาใช้อาวุธยิงเข้ามาในพื้นที่ต่างๆ ของฝ่ายไทยอย่างต่อเนื่อง ทั้งอาวุธที่มีอำนาจในการทำลายล้างสูงใช้ BM-21 ยิงเข้ามาในพื้นที่ของประชาชน ทำให้ต้องมีการอพยพออกจากพื้นที่ เพื่อความปลอดภัย และมีการเคลื่อนย้ายอาวุธยิงระยะไกลเข้ามาในพื้นที่ของไทยด้วย จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้มีทหารไทย เสียชีวิต 1 นาย และได้รับบาดเจ็บ 29 นาย
พันเอก ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษกกองทัพบก ระบุว่า ตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมาการปะทะก็ขยายเป็นวงกว้าง ลุกลามไปหลายจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และสระแก้ว พบว่าฝ่ายกัมพูชา ใช้อาวุธทุกประเภทในการเข้าโจมตีฝ่ายไทย ทั้งอาวุธกล อาวุธยิงสนับสนุน ปืนใหญ่ จรวดหลายลำกล้อง โดรนทิ้งระเบิด ทุ่นระเบิด
สำหรับผลปฏิบัติการที่สำคัญที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ กองทัพภาคที่ 2 สามารถทำลายอาคารกาสิโนร้าง เครือข่ายของแก๊งสแกมเมอร์ ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการทาง ที่ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ทำลายเสาสัญญาณแอนตีโดรนที่ศรีสะเกษ รวมทั้งผลักดันทหารกัมพูชา ออกจากปราสาทคณา ออกจากพื้นที่แต่ยอมรับว่ายังไม่สามารถเข้าไปได้ทั้งหมดเนื่องจากมีการวางทุ่นระเบิด
ส่วนกองทัพภาคที่ 2 ได้ดำเนินการผลักดันและควบคุมแนวเส้นปฎิบัติพื้นที่บ้านหนองจาน บ้านหนองหญ้าแก้ว ซึ่งการปฏิบัติการสามารถทำลายที่มั่นของทหารกัมพูชาได้บางส่วน โดยสามารถยึดและควบคุมพื้นที่หนองหญ้าแก้ว ได้เป็นที่เรียบร้อย รายงานล่าสุด ในพื้นที่พบมีการวางทุ่นระเบิด ชนิดสังหารบุคคลอยู่ด้วย แต่เจ้าหน้าที่ไทยก็ยังคงมีความพยายามอย่างต่อเนื่อง
พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยว่า ในพื้นที่บ้านหนองรี จังหวัดตราด หรือ บ้านสามหลัง เป็นพื้นที่พิพาทมานาน เคยเปิดปฏิบัติการไปแล้ว ปัจจุบันมีการตรวจพบว่า มีการกลับเข้ามายึดครองพื้นที่อีกครั้งและเสริมกำลังเข้ามา ทำฐานที่มั่น ทำเป็นที่พักอาศัย และโรงเรือนเก็บยุทโธปกรณ์ มีการวางกำลังซุ่มยิง ลาดตระเวนในพื้นที่บ่อยครั้ง ยั่วยุด้วยการใช้โดรนล่วงล้ำมาในอธิปไตยไทย อีกครั้ง กองทัพเรือพยามเจรจามาโดยตลอดอย่างสันติ แต่สถานการณ์ก็เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เปิดปฏิบัติการใช้กำลัง เพื่อให้ออกจากพื้นที่ ด้วยการใช้อาวุธหนัก แต่ปัจจุบันยังมีการประทะกันอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะจบภายในเร็ววันนี้
พลอากาศโทจักรกฤษ ธรรมวิชัย โฆษกกองทัพอากาศ ยืนยันว่า การโจมตีทางอากาศ เป็นการดำเนินการร่วมกับกองกำลังสุรนารี พุ่งเป้าไปที่พื้นที่ทางทหาร เพื่อหยุดยั้งการกระทำ ที่เป็นภัยคุกคามของประชาชนและประเทศไทย โดยได้ประสานความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศและกองทัพบก ยืนยันว่าการโจมตีทางอากาศ จะยังดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนกว่ากัมพูชาจะยุติการกระทำที่เป็นภัยคุกคามต่อประชาชนคนไทย
พลตำรวจตรี ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุ ตำรวจ ยึดแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง โดยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจจุดสกัด ตรวจสอบเส้นทางอพยพ สนับสนุนหน่วยงานด้านความมั่นคงทุกมิติ อำนวยความสะดวกด้านการจราจร ให้มีความสะดวกปิดการเส้นทางอันตราย เพื่ออพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย ดูแลชีวิต และทรัพย์สินของประชาชน ที่ต้องทิ้งบ้านไปอยู่ในที่ศูนย์พักพิง มีการจัดตำรวจไปดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งยังดูแลสัตว์เลี้ยง ทางการเกษตรให้ประชาชนด้วย
