วันนี้ (9 ธ.ค. 68) ดร.ปิ่นสักก์ สุรัสวดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้รับรายงานความคืบหน้าการช่วยเหลือเต่าทะเลที่นักท่องเที่ยวได้ยื่น สายรัดข้อมือ (wristband) ให้กินระหว่างดำน้ำตื้นบริเวณหมู่เกาะสิมิลัน ในวันที่ 24 พ.ย. 68
ซึ่งเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ติดตามพบเต่าทะเลตัวดังกล่าวบริเวณเกาะห้า–เกาะหก ก่อนนำส่งยังท่าเรือทับละมุ เพื่อส่งต่อให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนบน ทำการตรวจวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน
ทีมสัตวแพทย์ ประจำศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์ทะเลหายากสิรีธาร ของศูนย์วิจัยฯ ได้ตรวจสุขภาพร่างกายของเต่าและทำการตรวจวินิจฉัยอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ เพื่อระบุตำแหน่งของสายรัดข้อมือที่อยู่ในทางเดินอาหาร โดยใช้กล้องส่องตรวจทางเดินอาหาร ควบคู่กับการถ่ายภาพเอกซเรย์ ในเทคนิคเอกเรย์ร่วมกับการกลืนสารทึบรังสี (Barium swallow) เพื่อประเมินการเคลื่อนที่ของวัตถุแปลกปลอมอย่างละเอียด
รวมทั้งตรวจสุขภาพโดยรวมของเต่าทะเล เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการวางแผนการรักษา ซึ่งผลการตรวจร่างกายและตรวจเลือด พบว่า ความสมบูรณ์ของร่างกายอยู่ในระดับดีมาก (BCS 4/5) ไม่พบบาดแผลภายนอก ตอบสนองปกติ ค่าเลือดอยู่ในระดับปกติ และผลจากการเอกซเรย์ พบสายรัดข้อมืออยู่บริเวณส่วนกลางของทางเดินอาหาร
ตลอดจนพบสิ่งแปลกปลอมอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารตามธรรมชาติที่อาจส่งผลต่อระบบทางเดินอาหารร่วมด้วย ซึ่งจากการประเมินของทีมสัตวแพทย์ คาดว่าจะสามารถขับออกมาเองภายใน 30–40 วัน โดยจะมีการติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตลอดกระบวนการรักษา
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ขอฝากถึงผู้ใช้บริการท่องเที่ยวทางทะเลทุกท่าน งดให้สัตว์ทะเลกินสิ่งแปลกปลอมทุกชนิด รวมถึงงดสัมผัสหรือรบกวนสัตว์ทะเลในทุกรูปแบบ เนื่องจากการกระทำเหล่านี้อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตสัตว์ทะเล อาจก่อให้เกิดการอุดตันภายในทางเดินอาหาร บาดเจ็บ ติดเชื้อ หรืออาจร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้
ขอความร่วมมือทุกคน ช่วยกันปฏิบัติตามกฎการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อร่วมรักษาระบบนิเวศทางทะเลที่เปราะบางของประเทศไทยให้ยังคงอุดมสมบูรณ์สำหรับคนรุ่นต่อไป