เช้านี้ที่หมอชิต - เมื่อวานโฆษกเหล่าทัพต่าง ๆ ตั้งโต๊ะแถลง สถานการณ์การปะทะกันระหว่างทหารไทยและกัมพูชา โดยโฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันจะปฏิบัติการทางทหารไปจนกว่ากัมพูชาจะเลือทางสันติภาพอย่างแท้จริง
พลเรือตรี สุรสันต์ คงสิริ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า สั่งการให้ทุกหน่วยดูแลประชาชนที่อพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงให้ดีที่สุด รวมถึงให้กระทรวงมหาดไทยติดตามเรื่องการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ เช่น การโอนเงินเยียวยาให้เร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด
พร้อมย้ำเหตุผลความจำเป็นที่ฝ่ายไทยต้องยิงตอบโต้กลับ เพราะกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ และต้องปกป้องอธิปไตย และประชาชนชาวไทย ยืนยันจะปฏิบัติการทางทหารไปจนกว่ากัมพูชาจะเลือกเดินเส้นทางสู่สันติภาพอย่างแท้จริง
ขณะที่ พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ในพื้นที่บ้านคลองแผง อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว กองกำลังบูรพา สามารถทำลายอาคารกาสิโนในฝั่งกัมพูชา ซึ่งดัดแปลงเป็นพื้นที่ปฏิบัติการ เพื่อโจมตีใส่ฝ่ายไทย และคลังอาวุธได้บางส่วน
โดยยืนยันว่า ไทยไม่ได้เป็นฝ่ายริเริ่มความรุนแรง เพียงตอบโต้ตามความเหมาะสมเพื่อรักษาอธิปไตย
ส่วนในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล 2 ทุ่น บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว สภาพพร้อมใช้งาน และยังพบระเบิดแสวงเครื่อง 2 ชุดที่ทหารกัมพูชาแอบติดตั้งไว้
พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ แถลงว่า การเข้ายึดพื้นที่บริเวณบ้านสามหลัง ที่บ้านหนองรี อำเภอเมือง จังหวัดตราด ของกองกำลังจันทรบุรีตราด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ทหารกัมพูชากลับเข้ามาวางกำลังและขุดคูเลต ซึ่งขณะนี้ยึดคืนพื้นที่กลับมาได้เกือบทั้งหมดแล้ว
ส่วนที่ต้องมีการโจมตีอาคารกาสิโนที่บ้านท่าเส้น เพราะก่อนหน้านี้ตรวจพบด้านบนอาคารมีการติดตั้งสายอากาศ ANTI โดรน และเป็นแหล่งกบดานของสแกมเมอร์ ทำให้ต้องมีการโจมตีสายอากาศดังกล่าว แต่หลังจากนั้นพบว่า มีการนำปืนใหญ่เข้ามาตั้งในจุดดังกล่าว เพื่อโจมตีกอกำลังภาคพื้นดิน ทำให้จึงจำเป็นต้องโจมตีอีกครั้ง
ขณะที่ พลโทหญิง มาลี โสเจียตา โฆษกกระทรวงกลาโหมกัมพูชา แถลงเมื่อวานว่า การตอบสนองของกัมพูชาต่อการโจมตีอย่างโหดร้ายและไม่เลือกเป้าหมายของกองทัพไทยนั้นจำกัดอยู่เพียงแค่เป้าหมายทางทหารเท่านั้น
"กัมพูชาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากการตอบโต้เพื่อป้องกันตนเองจากปฏิบัติการทางทหารที่รุกรานของไทยซึ่งละเมิดบูรณภาพแห่งดินแดนของกัมพูชา"