ช่องอานม้า ช่องบก ปะทะเดือด

View icon 825
วันที่ 11 ธ.ค. 2568 | 11.01 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - อีกจุดที่มีการปะทะกันหนักมาก คือที่ช่องอานม้า ช่องบก และบริเวณเนินเขาโดยรอบ พื้นที่ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี เราไล่เลียงกันตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ เพราะมีทหารไทยเราได้รับบาดเจ็บ

เป็นภาพเฮลิคอปเตอร์ลำเลียง จ่าสิบเอก ถาวร รวบรวม สังกัด พัน.ร.91 ที่ได้รับบาดเจ็บถูกยิงบริเวณฐานมะนาว ช่องอานม้า อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ไปส่งที่โรงพยาบาลค่ายสรรพสิทธิประสงค์ หลังจากที่มีการส่งต่อจากโรงพยาบาลสนาม มณฑลทหารบกที่ 22 หลังแพทย์ประเมินว่ามีอาการหนัก

รายงานเบื้องต้นทราบว่า จ่าสิบเอก ถาวร กำลังประจำการอยู่ภายในฐาน ได้ถูกทางกัมพูชาใช้อาวุธปืนยิงจากด้านหลัง คาดว่าเป็นสไนเปอร์ หรือ พลซุ่มยิง กระสุนทะลุช่องท้องด้านหน้าอาการสาหัส ต่อมาเวลา 20.30 น. มีรายงานว่า จ่าสิบเอก ถาวร รวบรวม ได้เสียชีวิตแล้ว

โดยจุดนี้ถือว่าเป็นจุดที่มีการปะทะกันอย่างหนักหน่วง ในหลาย ๆ พื้นที่ ซึ่งเป็นเนินเขาจุดยุทธศาสตร์ที่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องการยึดให้ได้ ในภาพจะเห็นว่าช่องอานม้า มีเนิน 677 และ เนิน 500 อยู่ใกล้เคียง และมีเนิน 600 และเนิน 527 อยู่ด้านข้างและด้านหลัง ซึ่งทุกจุดมีการปะทะกันอย่างรุนแรงทุกพื้นที่

โดยเมื่อคืนมีรายงานว่า ทางฝั่งกัมพูชาได้ระดมโจมตีพื้นที่ช่องบก-ช่องอานม้า และเนิน 677 ด้วยฝูงโดรนกว่า 80 เที่ยว พร้อมใช้จรวด BM-21 และปืนจากพื้นที่เทือกเขาพระวิหารยิงใส่ 

สอดคล้องข้อมูลจาก กองทัพภาคที่ 2 ที่ระบุว่า พบโดรนติด ค.82 มม. บินลอบโจมตีช่องอานม้า คาดว่ามีชาวต่างชาติรับจ้างบังคับ และมีทหารกัมพูชาใช้โดรนคอยชี้เป้าเล็งบังเกอร์ไทย จึงออกคำแนะนำให้กำลังพลหลบในที่กำบัง

จากการฟังเสียง พบว่าจะไม่บินรวดเร็ว แต่จะบินได้นาน เป็นโดรนพลีชีพ จะทิ้งทำลายบริเวณช่องด้านหน้า หรือด้านหลังบังเกอร์ หวังให้สะเก็ดกระเด็นเข้าด้านใน บางจังหวะมีลงจอดที่พื้นเพื่อประหยัดแบต และรอเป้าหมาย

โดยสังเกตลักษณะการบินจะไม่ผ่านจุดที่มีสิ่งกีดขวางเยอะ และบินเลือกเป้ากลับไปกลับไปมา ทำให้คาดว่าใช้สายไฟเบอร์ออฟติก

โดยพื้นที่ อำเภอน้ำยืน มีคำสั่งให้ทุกพื้นที่ดับไฟทั้งหมด ให้เหลือไฟน้อยที่สุด เพื่อเป็นการไม่ให้เป็นจุดสังเกตุ หรือเป็นเป้าหมายทางทหาร ซึ่งก็มีชาวบ้านในพื้นที่รายงานว่า พบโดรนไม่ทราบฝ่ายบินเข้ามาในพื้นที่กว่า 30 ครั้ง บินอยู่ในระดับสูง และบินเร็ว เปิดไฟและปิดไฟ โดยไฟเป็นสีแดง สีเขียว เป็นระยะ

จนกระทั่งเวลา 21.00 น. เศษ เห็นพลุแฟร์ 2 ลูก ถูกยิงขึ้น ตามด้วยเสียงปืนและระเบิดดังต่อเนื่องในพื้นที่ ที่ช่องอานม้า  

ต่อมา 04.10 น. เมื่อเช้ามืด การสู้รบเริ่มขึ้นอีกครั้งจนถึงเช้าวันนี้ กล้องวงจรปิดในพื้นที่ได้ยินเสียงอย่างชัดเจน

เป็นคลิปวงจรปิดบ้านชาวบ้านติดกับชายแดน บันทึกเสียงจรวด BM-21 บินผ่าน และระเบิดเอาไว้ได้ โดยพบว่าช่วงเวลาประมาณ 07.55 น. และ 08.00 น. กัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาที่ช่องอานม้า 2 ชุด 80 ลูก แรงระเบิดทำให้ผู้สื่อข่าวในพื้นที่สามารถรับรู้แรงสั่นสะเทือนได้

ขณะที่เช้าวันนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ยังคงปฏิบัติการร่วมกัน ตั้งจุดตรวจจุดสกัด คัดกรองบุคคลเข้าออกพื้นที่ โดยจะไม่อนุญาตให้ประชาชนหรือชาวบ้าน เข้าพื้นที่หากไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน

พันตำรวจเอก บุรภัช บุรีภักดี รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุบลราชธานี บอกว่า ตามที่ปรากฏในโซเชียลเมื่อ 2-3 วัน ก่อนว่ามีการจับสายลับได้ ข้อเท็จจริงเป็นเพียงแค่บุคคลต่างด้าวที่ลักลอบเข้ามาในประเทศ โดยมีสัญชาติกัมพูชา คนกลุ่มนี้เข้ามาอยู่ในไทยอย่างไม่ถูกต้อง มาทำงาน มาหาญาติ สุดท้ายแล้วมีความต้องการ ที่จะกลับไปประเทศเขาก็เลยมีความเข้าใจคลาดเคลื่อน ไม่ได้เป็นสปายหรือสายลับ เข้ามาถ่ายภาพหรือหาข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงหรือเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ 

ส่วนเคสที่ 2 ที่อำเภอน้ำขุ่น ก็ทำการตรวจสอบเช่นเดียวกัน เป็นแรงงานต่างด้าว เข้ามาทำงานในฝั่งไทยและนายจ้างเลิกจ้าง จึงต้องเดินทางกลับ

ต่อมาเมื่อ 08.00 น. กองทัพภาคที่ 2 รายงานว่า เริ่มแล้ว 04.35 น. พื้นที่ช่องบก ช่องอานม้า ตาควาย ตาเมือนธม