สถานการณ์ปะทะไทย-กัมพูชา จ.สุรินทร์

View icon 61
วันที่ 11 ธ.ค. 2568 | 11.03 น.
ห้องข่าวภาคเที่ยง
แชร์
ห้องข่าวภาคเที่ยง - สถานการณ์ปะทะแนวชายแดน จังหวัดสุรินทร์ เมื่อคืนหลัง 20.00 น. เข้าสู่ความเงียบ แต่พอ 03.00 น. เท่านั้น ทหารกัมพูชาก็เริ่มเปิดฉากสู้รบยาวมาจนถึงตอนนี้

เปิดฉากยิงตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่าง กระสุนนัดแรกจากฝั่งกัมพูชา ลั่นไกเมื่อช่วง 03.00 น. จากนั้นก็ตามมาด้วยการสู้รบด้วยปืนใหญ่ สลับปืนเล็กอย่างดุเดือด ที่ชายแดนปราสาทตาควาย ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ก่อนที่เสียงปืนจะสงบลงตอนช่วงประมาณ 04.00 น.

กระทั่งช่วง 06.30 น. ทหารกัมพูชาเริ่มยิงจรวด BM-21 เข้ามาใส่ทหารไทยอีกระลอก และยังคงมีเสียงปืนดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำชุมชน และชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านต้องเข้าหลุมหลบภัยทุกจุด ไปฟังเสียงบรรยากาศช่วงหนึ่ง ที่ทีมข่าวบันทึกไว้ได้

ขณะที่ชายแดนช่องจอม ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิงฯ เสียงปืนสงบลงตั้งแต่ 15.00 น. รถถังทหารกัมพูชายิงกระสุนเฉียดเข้ามาที่หมู่บ้านด่าน ตกที่ทุ่งนาหลังโรงเรียนบ้านด่าน และป่าอ้อย จนถึงประมาณ 18.17 น. ถึงเริ่มมีเสียงปืนใหญ่ดังทิ้งระยะอย่างต่อเนื่องหลายสิบลูก มีรายงานว่า กระสุนมาตกในพื้นที่ใกล้กับหมู่บ้านด่าน และที่โรงเรียนบ้านด่าน

เครื่องบินรบของไทยบิน เข้ามาในพื้นที่ชายแดนช่องจอม ก่อนจะทิ้งระเบิดลงบริเวณฐานทหารกัมพูชา ฝั่งบ่อนกาสิโน ชุมชนโอรเสม็ด จังหวัดอุดรมีชัย หลายลูก ยังไม่ทราบว่าจุดใดบ้าง แต่แรงสั่นสะเทือนมาถึงบริเวณตลาดชายแดนช่องจอมชัดเจน

ได้คุยกับนายพรรษา อายุ 56 ปี ชาวบ้านที่หลบอยู่ในบังเกอร์ บอกเมื่อคืนนอนที่นี่ทั้งคืน ไม่กล้าออกไปไหน ได้ยินเสียงปืนนัดแรกก็ตอน 03.00 น. จะลุกไปเข้าห้องน้ำยังไม่กล้า เพราะไม่รู้กระสุนจะปลิวมาจากทิศทางไหน อยากให้ทหารรีบจบเรื่องนี้เร็ว ๆ

สำหรับแนวสู้รบหลักในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ คือที่ ช่องจอม-ช่องเปรอ-ช่องระยี, ปราสาทคนา, ปราสาทตาควาย, ช่องกร่าง และ ปราสาทตาเมือนธม ก็ยังต้องจับตาเหมือนเดิม

เพิ่มเติมคือไทยฝากประนาม กัมพูชา ว่า "โบราณสถานไม่ใช่สนามรบ" การใช้โบราณสถานเป็นฐานปฏิบัติการทหาร เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมสากล และทำลายคุณค่าทางโบราณสถานอย่างร้ายแรง

ขอบคุณภาพจาก : Facebook Army Military Force