พระราชวงศ์ และองคมนตรี ไปในการบำเพ็ญพระราชกุศล ถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

เวลา 06.55 น. วันนี้ พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคล เสด็จไปยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ในการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการถวายภัตตาหารเช้า ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมถวายแด่ พระพิธีธรรม จากวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษดิ์ และวัดสระเกศ 

ทั้งนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพ ประจำทั้งกลางวัน กลางคืน รับพระราชทานฉันเช้าวันละ 8 รูป รับพระราชทานฉันเพลวันละ 8 รูป

และเวลา 18.50 น. เสด็จไปในการบำเพ็ญพระราชกุศลพระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ ซึ่งเป็นพระพิธีธรรมจากวัดบวรนิเวศวิหาร และวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม

การสวดพระพิธีธรรม จะทำการสวดหลายรอบในหนึ่งวัน อาจทำให้เกิดอาการเสียงแห้งได้ ในอดีตเจ้าพนักงานฝ่ายสังฆการี จึงต้องเตรียม "น้ำชายาเสียง" หมายถึง เครื่องดื่มสำหรับช่วยแก้เสียงให้ดีขึ้น ได้แก่ น้ำร้อน น้ำชา เพื่อแก้เสียงแห้ง เป็นน้ำผลไม้คั้น 8 อย่างที่พระสงฆ์ฉันได้ตามพระวินัย เรียกว่าน้ำอัฐบาน น้ำชุบาน หรือน้ำปานะ ได้แก่ น้ำมะม่วง, น้ำหว้า, น้ำกล้วยมีเมล็ด, น้ำกล้วยไม่มีเมล็ด, น้ำมะซาง, น้ำผลจันทน์, น้ำเหง้าอุบล และน้ำมะปราง หรือ น้ำผลเล็บเหยี่ยว น้ำพุทราเล็ก น้ำพุทราใหญ่ น้ำเปรียง น้ำมันงา น้ำนม น้ำยาคู และน้ำรส (ผักดอง)

เวลา 10.53 น. พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี เป็นประธานในการบำเพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการถวายภัตตาหารเพล แด่พระพิธีธรรมที่สวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ จากวัดประยุรวงศาวาส และวัดจักรวรรดิราชาวาส

พระพิธีธรรม เป็นสมณศักดิ์ประเภทหนึ่ง มิได้พระราชทานแก่พระสงฆ์ แต่พระราชทานแก่พระอารามหลวง ซึ่งปัจจุบันมี 10 อาราม โดยเจ้าอาวาสมีอำนาจแต่งตั้งพระในวัด ให้เป็นพระพิธีธรรม ซึ่งล้วนเป็นผู้มีความรู้ ความชำนาญ ในการสวด รู้ระเบียบปฏิบัติในงานหลวง ผ่านการฝึกฝนมาเป็นอย่างดี

ส่วนเวลา 17.00 น. เป็นประธานในการบำเพ็ญพระราชกุศล พระพิธีธรรมสวดพระอภิธรรมพระบรมศพฯ โดยเป็นพระพิธีธรรมจากวัดจักรวรรดิราชาวาส และวัดประยุรวงศาวาส รวม 8 รูป

การสวดพระอภิธรรม มีทำนองเฉพาะ เรียกว่า "ทำนองหลวง" 4 ทำนอง ได้แก่ ทำนองกะ แบ่งเป็นกะเปิด เน้นการออกเสียงคำสวดอย่างชัดเจน, กะปิด เน้นการสวดเอื้อนเสียงยาว ทำนองเลื่อน สวดเอื้อนเสียงทำนองติดต่อกัน ไม่ให้ขาดตอน ทำนองลากซุก สวดออกเสียงหนักทุกตัวอักษร โดยเอื้อนเสียงจากหนัก แล้วแผ่วลงไปหาเบา และทำนองสรภัญญะ เน้นคำสวดที่ชัดเจน และเอื้อนทำนอง เสียงสูง-ต่ำ

ตลอดทั้งวัน ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง มีพสกนิกรทั้งจากในกรุงเทพมหานคร และต่างจังหวัด ไปกราบถวายบังคมพระบรมศพ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อาทิ ตัวแทนประชาชนจากจังหวัดนครศรีธรรมราช, นครสวรรค์, นนทบุรี และนราธิวาส, ครู นักเรียนโรงเรียนพระตำหนักสวนกุหลาบ, สถาบันพระปกเกล้า, สมาคมเทคนิคการแพทย์แห่งประเทศไทย, วชิราวุธวิทยาลัย, สำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน), มณฑลทหารบกที่ 11, โรงเรียนรุ่งอรุณ, มูลนิธิผึ้งหลวงอัศวิน ร่วมกับกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ, ครู นักเรียน โรงเรียนเทพลีลา, ครู และบุคลากรทางการศึกษา โรงเรียนกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์

ในวันที่ 12 และ 13 ธันวาคม 2568 จะมีพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร ถวายพระบรมศพ โดยวันพรุ่งนี้ จะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพฯ ระหว่างเวลา 08.00 น. - 12.00 น. ปิดจุดคัดกรองที่บริเวณอุโมงค์หน้าพระลาน เวลา 11.00 น. และในวันที่ 13 จะเปิดให้ประชาชนเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ฯ ระหว่างเวลา 13.00 น. - 21.00 น. ปิดจุดคัดกรอง เวลา 20.00 น.