สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานในการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 29/2568

View icon 68
วันที่ 11 ธ.ค. 2568 | 20.12 น.
ข่าวในพระราชสำนัก
แชร์
เวลา 13.40 น. วันนี้ สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก เสด็จไปยังห้องพระฉาก ตำหนักเพ็ชร วัดบวรนิเวศวิหาร ประทานพระวโรกาสให้ กรรมการมหาเถรสมาคมเฝ้า ในการนี้ ประทานสำเนาประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้ง ตามที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคมชุดปัจจุบัน จำนวน 20 รูป ตั้งแต่วันที่ 10 ธันวาคม พุทธศักราช 2568 เป็นต้นไป

จากนั้น เสด็จออกท้องพระโรง ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย ทรงนำสวดมนต์บูชาพระรัตนตรัย ประทานพระวโรกาสให้ผู้แทนกรรมการมหาเถรสมาคมเฝ้าถวายเครื่องสักการะ แล้วประทับเป็นประธานการประชุมมหาเถรสมาคม ครั้งที่ 30/2568

โอกาสนี้ ได้ประทานพระโอวาทความว่า "​การปกครองหมู่คณะ และการบริหารกิจการใด ๆ จำเป็นต้องเชิดชูกฎกติกาขึ้นเป็นใหญ่ เหนือกว่าฉันทาคติ โทสาคติ ภยาคติ และโมหาคติ ส่วนตน ขอฝากให้ทุกท่านซึ่งล้วนเป็น "ผู้ใหญ่" ดำรงฐานะอยู่ในองค์กรปกครองสูงสุดของคณะสงฆ์ไทย จงยึดมั่นใน พระธรรมวินัย กฎหมาย กฎ ระเบียบ และมติของมหาเถรสมาคม ที่วางหลักไว้ดีแล้ว ให้เหนือยิ่งกว่าความรู้สึกนึกคิดส่วนตน ทั้งต้องกำชับพระสังฆาธิการในปกครองทุกระดับ รวมถึงผู้สนองงานใกล้ชิดท่าน ให้ยึดถือหลักการนี้ไว้ด้วย ขออย่าเผลอให้ผู้ที่อยู่ในบังคับบัญชา มาชักจูงผู้ใหญ่ จนปรวนแปรไปเพราะอคติ ทำให้เสียการเสียงาน และเสียผู้ใหญ่ได้

​ในสังคมทุกสังคม ไม่ว่าจะเป็นสังคมฆราวาส หรือสังคมสงฆ์ หากเทิดทูนกฎเกณฑ์ขึ้นเป็นใหญ่กว่าตนเอง สังคมนั้น ๆ ก็จะอยู่ร่วมกันได้อย่างผาสุก ทั้งยังเป็นความปลอดภัย ต่อตัวท่านเอง และต่อสังคมส่วนรวม สามารถป้องกันโลกธรรมฝ่ายที่ไม่น่าพึงพอใจ ไม่ให้มาเบียดเบียน สมตามหลักการที่สมเด็จพระบรมศาสดาของเราทั้งหลาย ทรงยกย่องไว้ว่าสังคมที่ดีงามนั้น ต้องยึดมั่นในหลัก "ธรรมาธิปไตย" หาใช่อัตตาธิปไตย หรือโลกาธิปไตยไม่"

ข่าวอื่นในหมวด