ยายวัย 76 ปี ถูกฆาตกรรม หลังญาติไปพบร่าง พบว่าทองคำที่ผู้เสียชีวิตใส่หายไป 2 บาท ขณะที่ สงสัยหนุ่มใกล้บ้านเคยมายืมเงินยายบ่อย ๆ เนื่องจากหลังเกิดเหตุหายไปจากบ้าน
11 ธันวาคม 2568 เมื่อเวลา 15.00 น.พ.ต.อ.จุมพฎ มัณยาภา ผกก.สภ.แหลมงอบ พร้อมด้วย พ.ต.ท.วีระยุทธ คำภีระมี สารสืบสวนสอบสวน สภ.แหลมงอบ ปฎิบัติหน้าที่ร้อยเวรสอบสวน พร้อมด้วยปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอแหลมงอบ เจ้าหน้าที่อส.อ.อำเภอแหลมงอบ และชุดพิสูจน์หลักฐาน จ.ตราด เดินทางไปตรวจสอบที่บ้านยายม่อม ต.แหลมงอบ อ.แหลมงอบ หลังได้รับแจ้งมีผู้เสียชีวิตภายในบ้านคาดว่าจะเกิดจากการถูกฆาตกรรม
โดยเดินทางไปที่เกิดเหตุพร้อมอาสาสมัครสมาคมสว่างบุญช่วยเหลือธรรมสถานตราดเขตอำเภอแหลมงอบ ไปถึงบ้านหลังดังกล่าว เป็นอาคารตึกชั้นเดียวใต้ถุนสูง ภายในห้องโถงกลางบ้านพบศพผู้เสียชีวิตเป็นหญิง ญาติช่วยจับนอนหงาย มีบาดผลเป็นรอยแดงช้ำที่ลำคอ และใบหน้า เลือดไหลนองพื้น ทราบชื่อผู้เสียชีวิตว่า นางเอ อายุ 76 ปี ต่อมาพิสูจน์หลักฐานทำการเก็บลายนิ้วมือและหลักฐานต่างๆภายในที่เกิดเหตุ ก่อนสอบปากคำญาติๆเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตในครั้งนี้
ญาติของนางเอ ผู้เสียชีวิต เล่าว่า นางเอ อยู่บ้านเพียงลำพัง ลูกสาวไปทำงานอยู่กรุงเทพมหานคร ทุกวันจะโทรศัพท์มาหา แต่วันนี้ช่วงเที่ยงเศษๆ ลูกสาวโทรศัพท์มาหาแม่ แต่ไม่รับโทรศัพท์ จึงโทรไปหาหลานสาว และหลานเขยให้มาดูแม่ จนเวลาประมาณ 13.00 น. หลานเขยของนางเอ มาหาที่บ้านและเปิดประตูขึ้นไปบนบ้าน พบนางเอ นอนคว่ำหน้า และเสียชีวิตไปแล้ว ดังกล่าว ญาติยังบอกด้วยว่า ปกตินางเอ จะสวมสร้อยข้อมือ และสร้อยคอทองคำ นน.ประมาณ 2 บาท
หลังจากนางเอ เสียชีวิตแล้ว สร้อยคอและสร้อยข้อมือก็หายไป เนื่องดังกล่าว ญาติสงสัยว่า นายบี นามสมมติ เป็นผู้ต้องสงสัย เพราะเข้านอก ออกใน มายืมเงินนางเอประจำ จึงไล่ตรวจกล้องวงจรปิดในช่วงเวลาดังกล่าวพบว่านายบี เข้าและออกจากบ้านของนางเอจริง ก่อนจะหายตัวไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเรียกภรรยาของนายบี มาสอบปากคำเพื่อติดตามตัวนายบี มาสอบปากคำในการคลี่คลายคดีนี้ต่อไป โดยเชื่อว่านายบีจะเป็นผู้ลงมือใช้เชือกหรือผ้ารัดคอและชิงทอง