ห้องข่าวภาคเที่ยง - ชายแดนไทย-กัมพูชา จังหวัดอีสานใต้ ยังเปิดแนวรบยิงปืนใหญ่ต่อเนื่อง กลางคืนกลางวัน และยังต้องเฝ้าระวังโดรนพลีชีพเข้าโจมตี
เป็นแสงดวงไฟแหวกท้องฟ้ามองเห็นอย่างชัดเจน จากจรวด BM-21 ของทหารกัมพูชา ระดมยิงเข้าไปบริเวณแนวปราสาทตาเมือนธม ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก และปราสาทคนา อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ขณะที่ฝ่ายไทยโต้กลับด้วยปืนใหญ่ จนเสียงดังสนั่นกึกก้อง
หลังเสียงปืนเริ่มลดลงประปราย ช่วง 21.00 น. พบโดรนปริศนาไร้แสงไฟ 1 ลำ ได้บินวนอยู่เหนือหมู่บ้านใกล้กับบังเกอร์ ได้ยินเสียงใบพัดดังชัดเจน คาดว่า น่าจะเป็นโดรนขนาดใหญ่ ชุด ชรบ. ที่กำลังทำอาหารปิดไฟโดยทันที ก่อนที่โดรนปริศนาจะบินวนสักพัก และบินไปทิศทางอื่น หากบินเข้าใกล้ให้ทำลายได้ทันที หวั่นเป็นโดรนพลีชีพ
ขณะที่ช่วงเช้า ราว 6.30 น. ทหารกัมพูชาเปิดฉากยิงปะทะกับทหารไทยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านปราสาทตาควาย ช่องกร่าง และปราสาทตาเมือนธม ตลอดแนวอย่างหนัก ทหารกัมพูชา ยิงกระสุนปืนใหญ่ ปืนคอร์ และจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ยิงเป็นชุด ๆ อย่างไร้ทิศทาง ใส่ทหารไทย เป็นระยะ ๆ มีกระสุนตกตามไร่นาหลายจุด อยู่ระหว่างการสำรวจความเสียหาย ซึ่งตอนนี้ ร้านค้าบ้านเรือนชาวบ้านปิดร้านอพยพออกนอกพื้นที่
ขยับไปพื้นที่ใกล้เคียง เปิดแนวรบแถว ๆ ภูมะเขือ ภูผี สะตาโสม และปราสาทพระวิหาร อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ แนวชายแดนตึงเครียด โดยเฉพาะที่หมู่บ้านภูมิชรอล ที่เป็นหมู่บ้านสุดท้าย ก่อนที่จะขึ้นสู่ปราสาทเขาพระวิหาร
ทำให้ตอนนี้ เมืองกันทรลักษณ์กลายเป็นเมืองร้างทั้งเมือง เพราะร้านค้า ทั้งร้านเล็ก ร้านใหญ่ ปิดกิจการกันไปแทบจะหมดเมืองแล้ว รวมทั้งปั๊มน้ำมัน ต่างอพยพออกไปนอกพื้นที่เกือบ 100% แต่ก็ยังคงมีบางร้านที่ยังเปิดขายอาหารตามสั่ง ยังพอมีอาหารให้คนที่ยังอยู่ได้อิ่มท้อง แต่ก็มีการยิงปะทะกันอย่างรุนแรง เรียกได้ว่า ทุก 5 นาที ยังได้ยินเสียงปืนใหญ่ที่ระดมยิงปะทะกันตลอด
ขณะที่ในพื้นที่หมูบ้านภูมิชรอล ไม่หลงเหลือผู้คน แต่ยังมีชุด ชรบ. ที่จะต้องยังคงอยู่รักษาความสงบเรียบร้อย ดูแลทรัพย์สินของประชาชน ในช่วงที่ประชาชนอพยพออกไปจากหมู่บ้านหมด ก็ต้องเข้าไปหลบอยู่ในหลุมหลบภัยเมื่อมีการปะทะหนัก เพื่อความปลอดภัย