เมียเศร้าเสียใจ “ส.อ.อภิสิทธิ์ บุนนาค” พลีชีพในสมรภูมิรบภูมะเขือ เพิ่งพาลูก 2 คน ไปกราบพ่อเนื่องในวันพ่อ ในวันที่ 7 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา เช้าวันนี้เวลา 09.20 น. เพิ่งไลน์มาบอกว่าปลอดภัย ไม่ต้องเป็นห่วง แต่เวลา 11.00 น. ได้รับแจ้งข่าวร้าย
วันนี้ (14 ธ.ค. 68) จากกรณีมีรายงานจากแนวรบชายแดนไทย-กัมพูชา แจ้งความสูญเสียล่าสุดเมื่อเวลา 10.20 น. ได้เกิดเหตุจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ของฝ่ายกัมพูชา ระดมยิงตกใส่พื้นที่ปฏิบัติการของทหารไทย ส่งผลให้กำลังพลเสียชีวิต 1 นาย คือ ส.อ.อภิสิทธิ์ บุนนาค หรือ หมู่ตี๋ ตำแหน่งปกติเป็นนายสิบพยาบาล สังกัดกรมทหารราบที่ 16 พัน.3 (ร.16 พัน.3) และเป็นนายสิบพยาบาลประจำ พัน.ร.11 ในพื้นที่สนามรบ โดยรายงานระบุว่า ส.อ.อภิสิทธิ์ ถูกสะเก็ดระเบิดจากการโจมตีด้วยจรวดหลายลำกล้อง BM-21 อย่างรุนแรง ขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในบังเกอร์ พื้นที่ภูมะเขือ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ
ล่าสุดเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่มายังภูมิลำเนาของ ส.อ.อภิสิทธิ์ ที่บ้านมันเหลือง ต.หน่อม อ.อาจสามารถ จ.ร้อยเอ็ด โดยบรรยากาศมีภรรยาและญาติพี่น้องที่บ้านเกิด ต่างเฝ้ารอรับร่างของ ส.อ.อภิสิทธิ์ ด้วยความเศร้าโศกเสียใจ
น.ส.ระวีวรรณ บุนนาค อายุ 44 ปี ภรรยาของ ส.อ.อภิสิทธิ์ บอกทั้งน้ำตาว่า ตนและหมู่ตี๋ได้แต่งงานกันมา 10 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน คือ ลูกสาว น้องปันปัน อายุ 8 ขวบ และลูกชาย น้องไอคิว อายุ 6 ขวบ โดยก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 7 ธ.ค. 68 ที่ผ่านมา ตนเพิ่งพาลูกทั้ง 2 คน เดินทางไปหาหมู่ตี๋ ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ เพื่อพาลูกไปกราบพ่อ เนื่องในโอกาสวันพ่อ เพราะพ่อยังปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งก่อนจะกลับได้ชวนตนไปนั่งกินกาแฟ ลูกชายและลูกสาวก็นอนตักพ่อหยอกล้อกันเหมือนปกติ เพราะหมู่ตี๋รักลูกทั้ง 2 คนมาก อยากให้น้องไอคิวได้เป็นทหารเหมือนพ่อ และพูดติดปากอยู่ตลอดว่า พ่อภูมิใจมากที่เกิดมาเป็นชายชาติทหาร แล้วได้ปฏิบัติหน้าที่รักษาดินแดน ถือว่าเป็นเกียรติของการเกิดมาเป็นชายชาติทหารแล้ว โดยเดือน เม.ย. 69 ก็จะได้เลื่อนยศติดยศจ่าแล้ว
น.ส.ระวีวรรณ บอกอีกว่า ที่ผ่านมาจะคุยถามไถ่กันตลอด ส่วนใหญ่จะไลน์ส่งข้อความ เพราะทรศัพท์ติดต่อกันลำบาก เนื่องจากสัญญาณไม่ค่อยมี โดยล่าสุดเมื่อเช้าวันนี้เวลาประมาณ 09:20 น. ทางหมู่ตี๋ก็ได้ส่งข้อความไลน์มาบอกว่าพ่อปลอดภัยดี แม่ไม่ต้องเป็นห่วง แล้วถามว่ากินข้าวหรือยัง ซึ่งเป็นเหมือนปกติทุกครั้ง กระทั่งเวลาประมาณ 11.00 น. ตนได้รับแจ้งมาว่าหมู่ตี๋เสียชีวิตในสมรภูมิรบ ซึ่งตอนนั้นก็ยังไม่มีการยืนยันข้อมูล จึงพยายามเช็กข้อมูล ต่อมาเวลาประมาณ 13.00 น. จึงมีข้อมูลยืนยันมาจากหน่วยบังคับบัญชา ว่าหมู่ตี๋เสียชีวิตในสมรภูมิรบภูมิมะเขือจริง ตนจึงรีบพาลูกทั้ง 2 คน เดินทางมายังบ้านเกิดของสามีที่ จ.ร้อยเอ็ด ซึ่งมีเพียงแม่ของสามีที่อาศัยอยู่บ้านเพียงลำพัง เนื่องจากคุณยายของสามีก็เพิ่งเสียชีวิตไป
น.ส.ระวีวรรณ บอกทั้งน้ำตาอีกว่า ตนอยากฝากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง หลับให้สบาย ตนจะดูแลลูกทั้ง 2 คนให้ดี เหมือนดังที่เขาตั้งใจเอาไว้ ว่าอยากให้ลูกชายเป็นทหารเหมือนพ่อ ส่วนการประกอบพิธีกรรมทางศาสนาในเบื้องต้น ตนก็อยากจะนำร่างของสามีไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักของตน ที่ร่วมสร้างกันมากับสามี ในพื้นที่ อ.กุฉินารายณ์ จ.กาฬสินธุ์