เช้านี้ที่หมอชิต - ผ่านมา 1 สัปดาห์ของการสู้รบระหว่างไทย-กัมพูชา จนถึงตอนนี้ยังไม่มีทีท่าว่าจะยุติ และสถานการณ์ยังทวีความรุนแรงขึ้น
ซึ่งข่าวร้ายของไทย คือ พบผู้เสียชีวิตจากเครื่องยิงจรวด BM-21 อีก 1 คนที่จังหวัดศรีสะเกษ เป็นภาพความเสียหายของบ้านพักหลังหนึ่งในอำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีสะเกษ หลังจากถูกจรวด BM-21 ตกเข้าใส่จนเสียหายยับเยิน และมีเพลิงไหม้อย่างรุนแรง
เหตุการณ์นี้มีผู้เคราะห์ร้ายเป็นพลเรือนชาวไทยเสียชีวิต 1 คน เพราะถูกสะเก็ดระเบิด ซึ่งตามรายงานพบว่ากำลังจะวิ่งหนีจรวดเข้าที่กำบัง
โดยในเวลาต่อมา กองทัพบก ได้รับรายงานเหตุดังกล่าว จึงได้ออกแถลงการณ์ประณามการกระทำของฝ่ายกัมพูชาต่อเวทีประชาคมระหว่างประเทศ ที่ยังคงใช้อาวุธโจมตีใส่พื้นที่พลเรือน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการทางทหาร เป็นเหตุให้พลเรือนผู้บริสุทธิ์เสียชีวิต
เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นหลักฐานที่ชี้ชัดถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชา ที่ละเมิดต่อหลักสิทธิมนุษยชน และกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนผู้บริสุทธิ์อย่างร้ายแรง
โดยตามรายงานของกองทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ตั้งแต่ช่วงเช้าวานนี้ ฝ่ายกัมพูชาได้ระดมยิงปืน ค., ปืนใหญ่ และ จรวด BM-21 เข้าใส่พื้นที่ของไทย
ทั้งช่องอานม้า, ห้วยตามาเรีย และภูมะเขือ, พื้นที่ช่องจอม-ช่องระยี-ช่องปลดต่าง, ปราสาทตาเมือน และพื้นที่สายตะกู
ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาควาย-เนิน 350 ฝ่ายกัมพูชาโจมตีด้วยปืน ค., จรวด BM-21 และโดรนทิ้งระเบิด ส่วนทหารไทยได้เปิดปฏิบัติการเข้าตี และยึดครองภูมิประเทศที่สำคัญ
ส่วนปฏิบัติการที่ช่องอานม้า ซึ่งพบภาพในโซเชียลฯ เป็นจรวดนำวิถีต่อสู้รถถังสมัยใหม่ของกัมพูชา และทหารไทยได้ตรวจยึดมาได้นั้น
ตอนนี้ยุทโธปกรณ์ดังกล่าวได้ถูกเก็บไว้ รอการส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ชำนาญการเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียด
เบื้องต้นพบว่าเป็นจรวดนำวิถีที่ผลิตในประเทศจีน
ส่วนปฏิบัติการในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 จังหวัดสระแก้ว
แนวรบสำคัญยังอยู่ที่บ้านคลองแผง อำเภอตาพระยา กองกำลังทของไทยได้เข้ายึดครองพื้นที่ และใช้อาวุธยิงสนับสนุน
แต่ฝ่ายกัมพูชาต่อต้านด้วยการยิงจรวด BM-21 และเครื่องยิงลูกระเบิดเข้าใส่ต่อเนื่อง
โดยกองกำลังบูรพา รายงานว่าจากการปะทะตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม คาดว่าทหารกัมพูชาเสียชีวิตประมาณ 300 นาย อีกจุดที่กำลังดุเดือด คือ พื้นที่จังหวัดตราด ซึ่งดูแลโดยกองทัพเรือ
ตอนนี้จังหวัดตราดได้ประกาศเคอร์ฟิว 5 อำเภอ คือ อำเภอคลองใหญ่, อำเภอบ่อไร่, อำเภอแหลมงอบ, อำเภอเขาสมิง และอำเภอเมืองตราด ยกเว้นอำเภอเกาะช้าง และอำเภอเกาะกูด
โดยจุดนี้ปะทะกันอย่างหนักตั้งแต่สัปดาห์ก่อน และล่าสุดนาวิกโยธินกองทัพเรือ สามารถเข้ายึดพื้นที่บ้าน 3 หลังที่บ้านหนองรี ตำบลชำราก ซึ่งจุดนี้พบว่าเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายตรงข้าม รุกล้ำเข้ามาอยู่ในเขตดินแดนของไทย
ส่วนทางฝ่ายกัมพูชาตอบโต้ด้วยการยิงปืนใหญ่เข้าถล่มฐานที่มั่นของไทย ปรากฏว่ากระสุนปืนใหญ่ได้ตกลงในพื้นที่หมู่บ้านแห่งหนึ่งในตำบลชำราก และระหว่างนั้นเป็นช่วงที่เจ้าหน้าที่ รวมถึงทีมข่าวกำลังทำงานกันอยู่ ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่มีใครบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต
สมรภูมิที่จังหวัดตราด ต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เพราะล่าสุดมีคำยืนยันจาก พลเรือตรี ปารัช รัตนไชยพันธ์ โฆษกกองทัพเรือ บอกว่า สาเหตุที่ต้องประกาศเคอร์ฟิว เพราะหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด ถูกเครื่องยิงลูกระเบิด M-79 ยิงถล่ม 3 นัดเมื่อคืนวันที่ 13 ธันวาคม
ซึ่งปรากฏว่าวิถีกระสุนมาจากในประเทศ จึงมั่นใจว่า มีสายลับกัมพูชาแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่
อีกเหตุการณ์ที่อาจต้องแจ้งให้เฝ้าระวังมากกว่าตื่นตระหนก คือ เพจ Facebook สภ.พลกรัง จังหวัดนครราชสีมา ได้โพสต์ข้อความเตือนว่า ขอให้ช่วยตรวจสอบว่าในพื้นที่รีสอร์ต, เกสท์เฮาส์, โรงแรม, บ้านพัก ในหมู่บ้าน ตำบลเทศบาลที่รับผิดชอบ ว่ามีชาวรัสเซีย แขกขาว ชาวต่างชาติที่ผิดสังเกตไปพักอาศัยอยู่หรือไม่
เนื่องจากมีรายงานข่าวว่า มีทหารรับจ้างชาวรัสเซียที่กัมพูชาจ้าง อาจเข้ามาก่อเหตุในพื้นที่ที่เป็นจุดยุทธศาสตร์ทางทหารในพื้นที่นครราชสีมา
อย่างไรก็ตาม ในเวลาต่อมาโพสต์ดังกล่าวได้หายไปจากเพจ Facebook สภ.พลกรัง และได้โพสต์ Infographic ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เกี่ยวกับลักษณะการกระทำที่อาจเข้าข่ายสายลับ 5 ประการแทน